เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก 191 ว่า มีรถบรรทุกชนเสาไฟฟ้าช่วงโค้งวัดศาลาลอย ถนนท้าวสุระ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ โดยพบรถบรรทุกพ่วง 20 ล้อ เป็นรถของบริษัทยรรยง ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-6342 นครราชสีมา อยู่ในสภาพจอดขวางถนน และมีต้นไม้หัก กับเสาไฟฟ้าล้มระเนระนาดขวางถนน ไม่สามารถสัญจรผ่านได้อย่างสิ้นเชิง
จากการสอบถาม นายชัย ใยกลาง อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 10 ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา คนขับรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวบอกว่า กำลังขับจะไปเอาทรายที่ อ.พิมาย เพื่อนำมาลงไว้ที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างที่ ต.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา แต่เมื่อขับรถผ่านมาตรงทางโค้งวัดศาลาลอย พบว่า มีน้ำท่วมขังบนพื้นผิวจราจร เนื่องจากเกิดพายุพัดถล่มเขตเมืองนครราชสีมาอย่างรุนแรง ทำให้ฝนตกหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง สภาพถนนจึงมีน้ำเจิ่งนองหลายจุด เมื่อตนขับมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงโค้งถนนพอดีและยังมีน้ำท่วมขังบนผิวจราจรอยู่ จึงทำให้ควบคุมรถไม่อยู่ รถเสียหลักไปชนเข้าเสาไฟฟ้าริมฟุตปาธหักโค่น แล้วเกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูงหักลงมาขวางถนนถึง 5 ต้น และยังเกี่ยวต้นไม้ล้มลงมาขวางถนนด้วย โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ก็ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านในช่องทางดังกล่าวได้
ด้านนายประธาน วรรณวิจิตร ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าวินาทีเฉียดตายว่า กำลังนั่งเล่นอยู่ด้านหน้าโรงแรมเฟดร์นั่งหันหน้ามาทางถนน เห็นรถบรรทุกคันเกิดเหตุขับมาแล้วเสียหลักชนกับเสาไฟฟ้า ตนจึงรีบวิ่งหนีตายเอาตัวรอด จากนั้นเสาไฟฟ้าที่ถูกชนก็ได้ล้มลงมาขวางถนนหลายต้น ตนตั้งสติได้จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรีบเข้าไปดูคนขับรถว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด คาดว่า เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะต้องใช้เวลาซ่อมแซมเสาไฟฟ้าหลายชั่วโมงกว่าจะปล่อยกระแสให้ชาวบ้านในละแวกให้ใช้ได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ขับขี่รถพ่วงต่อไป จึงขอให้ผู้ที่จะเดินทางในถนนท้าวสุระในช่วงเช้าวันนี้ ได้หลีกเหลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นก่อน
