จังหวัดสงขลาพบจำนวนผู้ป่วยกลุ่มแรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้น หลังตรวจเชิงรุกในศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองสงขลาในอำเภอสะเดา
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 18 ราย ซึ่งเป็นชาวต่างด้าว ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในศูนย์กักตัว ผู้ต้องกัก ตรวจคนเข้าเมืองสงขลา อำเภอสะเดา ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่พบผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ 42 คนก่อนหน้านี้ โดยการตรวจพบเชื้อในครั้งนี้นั้นเป็นการตรวจเชิงรุก ภายหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่จังหวัดสงขลาเมื่อสัปดาห์ก่อนและสั่งการให้ปฏิบัติการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่ถูกควบคุมตัวอยู่บนชั้น 2 ของอาคารศูนย์กักตัวผู้ต้องกัก ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา อำเภอสะเดา ซึ่งมีจำนวน 26 คน ภายหลังจากแรงงานต่างด้าวที่ถูกควบคุมตัวอยู่ชั้น 1 ของอาคาร ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จำนวน 42 คนก่อนหน้านี้ ซึ่งล่าสุดนั้นผลตรวจยืนยันว่าพบแรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 18 คน
ทั้งนี้นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ได้มีการเปิดโรงพยาบาลสนามภายในศูนย์กักฯ สำหรับรักษาตัวแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้ออยู่ก่อนแล้ว เมื่อพบแรงงานต่างด้าวติดเชื้อเพิ่มอีก 18 คน แพทย์ก็จะทำการตรวจเอ็กซเรย์ปอด โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 18 คนขณะนี้ทั้งหมดไม่ได้มีอาการป่วยใด ๆ แต่หากผลเอกซเรย์ปอดพบว่ารายใดเริ่มมีอาการปอดอักเสบหรือปอดบวม ก็จะดำเนินการนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลักทันที แต่หากไม่มีอาการเสี่ยงก็จะยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ส่วนแรงงานต่างด้าวกลุ่มเดิม ที่ติดเชื้ออยู่ก่อนแล้ว 42 คน ทั้งหมดมีอาการดีขึ้นตามลำดับ
