ชาวเน็ตคาใจ! กู้ภัยช่วยคนเจ็บขาหักสาหัส จับดัดเอง ขัดแนวปฏิบัติช่วยชีวิต

ชาวเน็ตคาใจ! กู้ภัยช่วยคนเจ็บขาหักจับดัดเอง วิจารณ์แซด ขัดแนวทางช่วยชีวิต-ความปลอดภัย

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการแชร์คลิปวีดีโอเหตุการณ์เกิดอุบัติเหตุ โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ถ่ายไว้ จากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ บนถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด สี่แยกบ้านบ่อ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนอยู่กลางถนน สภาพตามร่างกายแขน ขาหัก ไม่รู้สึกตัว ก่อนที่รถของอาสาสมัครกู้ภัยหน่วยงานหนึ่ง ขับมาจอด และมีชายคาดว่าน่าจะเป็นอาสาสมัครกู้ภัยสวมเสื้อแขนกุด นุ่งกางเกงขาสั้น สวมรองเท้าแตะวิ่งลงจากรถมาคนเดียว

ลากเอาเปลลงมา เตรียมอุปกรณ์ ก่อนที่จะจับขาของผู้บาดเจ็บทั้งสองข้าง ซึ่งมีสภาพหักพับมาถึงหน้าอกลงมาในท่าเหยียดตรง จนชาวบ้านที่กำลังมุงดูเหตุการณ์ร้องออกมาด้วยความตกใจและหวาดเสียว ก่อนที่จะมีอาสาสมัครกู้ภัยอีกหน่วยงานหนึ่ง และกู้ชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขับรถตามมาถึง และมีอาสาสมัครหลายคนเข้าไปช่วยพยุง โดยการเซฟศีรษะและคอ ซึ่งเป็นจุดสำคัญ พร้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำส่งโรงพยาบาล

ทั้งนี้หลังจากคลิปดังกล่าวถูกโพสต์และแชร์ออกไปทำให้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก เนื่องจากในคลิปชายคนดังกล่าว เหมือนขับรถมาคนเดียว แล้วพยายามเข้าช่วยคนได้รับบาดเจ็บทันที โดยการจับขาที่หักพับดัดให้ตรง ซึ่งหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าได้มีการประเมินสถานการณ์และสภาพผู้บาดเจ็บหรือ และทำไมไม่รอเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ มาช่วยกัน ซึ่งเป็นการช่วยเหลืออย่างผิดวิธี เพราะตามหลักการนั้น การช่วยเหลือที่ถูกต้อง จะต้องประเมินสภาพผู้บาดเจ็บ และต้องเข้าช่วยเหลือบริเวณจุดสำคัญต่อชีวิตมากที่สุดก่อน ไล่เลียงตามลำดับ เช่น ศีรษะ หรือคอ และต้องช่วยเหลือในเรื่องระบบหายใจก่อนจนไปถึงแขนขาส่วนที่หัก แต่หากผู้บาดเจ็บอาการสาหัสเกินขีดความสามารถจะต้องแจ้งให้ทีมกู้ชีพฉุกเฉินของโรงพยาบาลในพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะการปั๊มหัวใจหรือการทำ CPR เนื่องจากมีอุปกรณ์ในรถครบ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุรถจักรยายนยนต์บิ๊กไบก์ชนกับรถกระบะ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 21.30 น.วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนำตัวผู้บาดเจ็บขึ้นรถหน่วยกู้ภัยแล้ว ได้มีการส่งตัวผู้บาดเจ็บขึ้นรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลในระหว่างทาง ก่อนที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้มีรายงานว่าทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ.สั่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินให้ปลอดภัยแล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image