พงส.สภ.ผึ่งแดด เร่งรวบรวมหลักฐานขอออกหมายจับกลุ่มครูหื่นรุมโทรมผู้เยาว์รายที่ 2
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. พ.ต.ท.ปรีชา ครองยุติ สว.(สอบสวน) สภ.ผึ่งแดด เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการทำหน้าที่พนักงานสอบสวนในคดีที่นางอุบล ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษว่าครู 5 คน และศิษย์เก่า 2 คน ของโรงเรียนดงมอนวิทยาคม ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะเป็นการรุมโทรมหลานของตนซึ่งเป็นเด็กนักเรียนอายุ 14 ปี และได้มีการอ้าง นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เด็กนักเรียนชั้นม 4 เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ด้วยนั้น เมื่อมีการสอบปากคำได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า วันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. นายวิพจน์ แสนสุข และนายอานุภาพ บรรจงได้นัด ด.ญวัย 14 และ น.ส.เอ วัย 16 มาพบที่บ้านพักครูของนายวิพจน์จากนั้นนายวิพจน์ ก็ได้กระทำเรา ด.ญวัย 14 และนายอานุภาพ ได้กระทำชำเรา น.ส.เอ วัย 16 ในห้องเดียวกัน ระหว่างนั้นนายวิพจน์ และนายอานุภาพ ยังได้มีการสลับคู่กัน โดยนายอานุภาพ ได้กระทำชำเรา ด.ญวัย 14 และนายวิพจน์ กระทำชำเราน.ส.เอ วัย 16 ระหว่างนั้นได้มีนายยุทธนา ภู่ถนนนอก เข้ามาในห้อง นายอานุภาพ ก็ได้ลุกขึ้นและลงด้านล่างของบ้านพัก จากนั้นนายยุทธนา ก็ได้กระทำชำเราด.ญวัย 14และน.ส.เอ วัย 16 สลับกันไปมา หลังจากนั้นนายวิพจน์ ได้กลับขึ้นมาบนห้องและได้กระทำชำเรา ด.ญวัย 14 ต่ออีกจนสำเร็จความใคร่
ต่อมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม เวลาประมาณ 14.30 น. นายวิพจน์ ได้นัดด.ญวัย 14 และน.ส.เอ วัย 16 ไปพบที่บ้านพักครูของนายวิพจน์ อีกเมื่อไปถึงนายวิพจน์ ก็ได้กระทำชำเรา ด.ญวัย 14 ส่วนน.ส.เอ วัย 16 ถูกนายยุทธนา กระทำชำเรา จากนั้นนายวิพจน์ ได้ขอสลับคู่กับนายยุทธนา ซึ่งนายยุทธนาฯ ก็ได้กระทำชำเรา ด.ญวัย 14 ส่วนนายวิพจน์ กระทำชำเรา น.ส.เอ วัย 16 ต่อมา นายวิพจน์ ขอสลับคู่คืนอีก จนกระทั่งนายวิพจน์ และนายยุทธนา สำเร็จความไคร่
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวพนักงานสอบสวนจึงเห็นว่าในส่วนของ น.ส.เอ วัย 16 นอกจากจะเป็นพยานในคดี ด.ญวัย 14แล้ว ยังเป็นผู้เสียหายอีกด้วย โดยเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ และต้องแยกเป็นอีกหนึ่งคดีต่างหากจากคดี ด.ญวัย 14 จึงได้ให้ น.ส.เอ วัย 16 แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายวิพจน์ แสนสุข นายอานุภาพ บรรจง และนายยุทธนา ภู่ถนนนอก ในข้อหาร่วมข่มชืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยพนักงานสอบสวนได้รับเป็นคดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบรัดกุมเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกคนต่อไป
