“ดีเอสไอ” เข้าตรวจเหมืองแร่หมดอายุที่ราชบุรี หลังมีผู้ร้องเรียนอุตฯจังหวัด

ดีเอสไอร่วมกับหน่วยงานเข้าตรวจสอบเหมืองแร่หมดอายุ ในพื้นที่ ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี หลังมีผู้ร้องเรียน อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี เผยไม่มีการดำเนินการใด ๆ ขณะ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

วันนี้ (13 พ.ค. 63) พ.ต.ท.บรรจบ อยู่ยืนยง ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 7 กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.อ.กลวิตร บุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายอานันท์ ฟักสังข์ อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี ได้นำหมายศาลจากจังหวัดราชบุรี ที่ค. 63/2563 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร บุกเข้าตรวจสอบ บริษัท ปฐมวัฒนพาณิชย์ การแร่ ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 3 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี หลังได้รับการร้องเรียนมาว่าที่เหมืองแร่แห่งนี้ ซึ่งได้รับอนุญาตประทานบัตรในการขุดแร่เฟลด์สปาร์ในพื้นที่จำนวน 134 ไร่ ประทานบัตรนั้นหมดอายุไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 แต่ในปัจจุบันยังคงมีการดำเนินการในพื้นที่อยู่ และอาจจะมีการบุกรุกพื้นที่ป่าด้วย เนื่องจากมีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศในช่วงที่มีการดำเนินการและหลังจากสัมปทานหมดอายุ พบว่าการขุดแร่จะเกินพื้นที่เข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี

จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ภายในเหมืองดังกล่าว ยังมีกองแร่เฟลด์สปาร์อยู่จำนวนมานมาก และบางส่วนถูกนำไปตกแต่งบดเป็นแร่ให้เป็นผงแล้ว โดยพบกับนายระวี อารยวัฒนเวช รับเป็นผู้จัดการของเหมืองแร่ พร้อมกับให้ข้อมูลว่า เหมืองแร่แห่งนี้ขออนุญาตประทานบัตรมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2531 และต่ออายุประทานบัตรมาเรื่อย จนล่าสุดประทานบัตรได้หมดอายุไปเมื่อปี พ.ศ. 2561 ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการยื่นต่อใบอนุญาตประทานบัตร และภายในเหมืองแร่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2561 แล้ว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบโรงแต่งแร่จำนวน 3 โรงดังกล่าว พบว่าน่าจะยังมีการดำเนินการอยู่ เพราะสภาพของเครื่องจักรนั้นยังคงถูกใช้งานตลอด มีผงแร่เฟลด์สปาร์ในถุงบิ๊กแบ็คที่นำมารอจากท่อพ่น รวมทั้งมีป้ายกำกับวันเดือนปี ที่ผลิตด้วย

ร.อ.กลวิตร บุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ข้อมูลว่า ได้รับการร้องเรียนว่าเหมืองแร่แห่งนี้มีการลักลอบดำเนินกิจการอยู่ วันนี้จึงได้ร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการตรวจสอบ เพื่อรวบรวมข้อมูลในการกระทำความผิด ซึ่งขณะนี้กำลังให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักหมุดต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบดูว่ามีการทำเหมืองเกินพื้นที่ขออนุญาตหรือไม่ ซึ่งมีทั้งหมด 14 จุด ซึ่ง หากพบว่ามีการทำผิดจริง ก็ต้องให้ทางอุตสาหกรรมเป็นผู้ดำเนินการ

ส่วนนายอานันท์ ฟักสังข์ อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ประทานบัตรของเหมืองแร่หมดอายุเมื่อ ปี พ.ศ. 2561 ขณะนี้ได้ยื่นคำขอต่ออายุไว้แล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างผู้ขอประทานบัตรไปติดต่อประสานกับทางกรมป่าไม้และทางสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรรม (สปก.) ซึ่งตอนนี้ก็รอเอกสารจากสองหน่วยงานนี้อยู่มาประกอบการพิจารณาการต่ออายุประทานบัตร และในช่วงที่ประทานบัตรนั้นหมดอายุลง ทางผู้ประกอบการจะไม่สามารถทำกิจกรรมใด ๆ ในเหมืองแร่ได้ แต่ที่เหมืองแห่งนี้มีโรงแต่งแร่อยู่ในพื้นที่ด้วย และก่อนที่ประทานบัตรจะหมดอายุ ทางผู้ประกอบการได้ขออนุญาตครอบครองแร่ที่ขุดขึ้นมากองในพื้นที่ไว้ ซึ่งเมื่อประทานบัตรหมดอายุโรงแต่งแร่ก็จะต้องหมดอายุไปด้วย แต่การมาสำรวจนั้นพบว่าไม่มีการดำเนินการใด ๆ ในช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ จึงจะต้องทำการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดว่าตรงตามที่ขออนุญาตหรือไม่ มีแร่เท่าไหร่ในช่วงที่ประทานบัตรหมดอายุ และปัจจุบันเหลือแร่เท่าไหร่ มีการนำออกไปด้านนอกหรือไม่อย่างไร ซึ่งวันนี้จะต้องเก็บข้อมูลทั้งหมดเอาไปประกอบ และจะต้องทำการขยายพื้นที่ไปตรวจสอบยังเหมืองอื่น ๆ ด้วย

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image