“นครปฐม”มอบถุงยังชีพผู้ได้รับผลกระทบ ย้ำประชาชนต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง ปรับตัวรับวิถีชีวิตใหม่

เมื่อวันที่ 15พฤษภาคม ที่หอประชุมโรงเรียนเทศบาล4 เชาวนปรีชาอุทิศ ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม ร.ต. พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ประธานมอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการการป้องกัน. และแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(COVID-19)ของเทศบาลนครนครปฐม

นายเอกพันธุ์ คุปตวัช นายกเทศมนตรีนครนครปฐม รายงานว่ามี ประชาชนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19 ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ไม่สามารถออกไปทำงานได้ตามปกติ ขาดรายได้ และไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือจากทางภาครัฐได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เทศบาลนครนครปฐมจึงพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชน 4 กลุ่ม มีคนพิการที่ขึ้นทะเบียนกับเทศบาล 1,255 คน. ผู้ป่วยติดเตียง 94 คน ผู้ยากไร้ตามข้อมูลของสำนักงานเทศบาลนครฯ 32คน และมารดาเด็กแรกเกิดที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตเทศบาล 301 คน รวม 1,682 คน

ร.ต.พงศธร กล่าวว่า สถานการณ์ ปัจจุบัน แม้ตัวเลขผู้ป่วยของจังหวัดนครปฐมจะไม่เพิ่มขึ้นจาก 23ราย แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ 20 รายแรก สามารถสอบสวนพบที่มาของโรคได้แต่รายที่ 21, 22 และ 23 สอบสวนไม่พบที่มาของโรค ซึ่งได้ตรวจหากับผู้เกี่ยวข้องเกือบ 700คน แต่ไม่พบต้นตอของโรค จึงขอให้ทุกคนป้องกันตนเอง และปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดนครปฐมขอความร่วมมืออย่างจริงจัง

Advertisement

“หลังจากจังหวัดนครปฐม มีประกาศมาตรการผ่อนคลายในเฟสแรก ทำให้ชาวจังหวัดนครปฐมออกมาใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้านมากขึ้น บางส่วนยังปรับตัวกับมาตรการที่กำหนดไม่ได้ ใส่หน้ากากอนามัยไม่ถูกต้อง จึงมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ลงพื้นที่แนะนำให้ความรู้กับประชาชนในมาตรการต่างๆในการป้องกันและควบคุมโรค ทำให้สถานการณ์โควิด ปัจจุบันดีขึ้น แม้ตอนนี้ผู้ป่วยในจังหวัดนครปฐมจะเป็นศูนย์ก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งวางใจ เนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่ที่เรายังต้องระมัดระวังต่อไป และขอให้ อปท. ลงไปให้ความรู้ ให้คำแนะนำพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพราะยังคงต้องใช้เวลาในการปรับตัว เนื่องจากเป็นวิถีชีวิตใหม่ แต่ขอให้ทุกคนคิดเสมอว่ายังมีผู้ป่วยอยู่ จึงขอให้ทุกคนดูแลตัวเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของจังหวัด

ส่วนกรณีมีรายงานของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข(EOC)จังหวัดเชียงใหม่ ว่าวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 41 ของจังหวัดเชียงใหม่  เป็นชายไทย อายุ 39 ปี อาชีพช่างสักเดินทางออกจากภูเก็ต โดยรถยนต์ส่วนตัว พร้อมภรรยาและบุตร ระหว่างทางผู้ป่วยรออยู่ในรถ ภรรยาทำหน้าที่เดินเอกสารตามด่านที่จังหวัดภูก็ต และจังหวัดสุราษฎร์แวะเข้าห้องน้ำ และพักนอนที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งบริเวณจังหวัตนครปฐม 1 คืน ทำให้ต้องเร่งสอบสวนไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายนี้ ขณะจอดรถถนอนแล้วไปไหนต่อ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19” ร.ต.พงศธร กล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image