ตามที่จังหวัดนครราชสีมา ได้เคยออกคำสั่งที่ 3592 / 2563 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 ให้ปิดโรงแรมเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่สถานการณ์ปัจจุบัน จังหวัดนครราชสีมา ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2563 จึงเห็นสมควรออกมาตรการผ่อนปรนระยะ 2 ปลดล็อกให้โรงแรม เปิดให้บริการต่อไปได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการและพนักงานลูกจ้าง รวมถึงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง จึงได้ออกคำสั่งที่ 5370/2563 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 เรื่อง ยกเลิกการปิดโรงแรม ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ทุกประเภท ซึ่งเป็นการยกเลิกคำสั่งจังหวัดที่ 3592/2563 มีผลให้โรงแรมในจังหวัดนครราชสีมา สามารถเปิดให้บริการตามปกติได้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป
แต่ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 จะต้องมีมาตรการป้องกันโรคในเรื่องการคัดกรองไข้พนักงานก่อนเริ่มงาน สวมหน้ากากขณะปฏิบัติงาน ล้างมือ ใช้แอลกอฮอล์เจล ฯลฯ รวมถึงทำความสะอาดพื้นที่ซึ่งมีการสัมผัสบ่อยเป็นประจำ มีแผ่นรองพื้นผสมน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณทางเข้า จัดพื้นที่รอคิวให้เหมาะสม มีแอลกอฮอล์เจลให้บริการ, กำหนดทางเข้าออกทางเดียว (ยกเว้นทางหนีไฟ) มีการคัดกรองผู้มาใช้บริการ กำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า บันทึกประวัติ รองรับการจ่ายเงินผ่านแอพพลิเคชั่น ส่วนห้องพักต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ล้างอุปกรณ์ทำความสะอาด ทำความสะอาดอุปกรณ์ ปรับตำแหน่งเครื่องปรับอากาศ ให้มีการไหลเวียนของอากาศที่ดี แต่ข้อกำหนดการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่โรงแรม ให้เป็นไปตามคำสั่งของ ศบค.
ซึ่งมาตรการผ่อนปรนดังกล่าว ทำให้โรงแรมขนาดใหญ่ชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา อย่างเช่น โรงแรมสีมาธานี ตั้งอยู่ที่ริมถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเปิดให้บริการวันที่ 1 มิถุนายนที่จะถึงนี้แล้ว โดยนายสวัสดิ์ มังกรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมสีมาธานี เปิดเผยว่า ทางโรงแรมได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งการจัดทำ Social Distancing ตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในวงพื้นที่จำกัด รวมไปถึงการคุมเข้มความปลอดภัยด้านสุขาภิบาลตั้งแต่ต้นทางเลือกวัตถุดิบ การขนส่ง จนถึงผู้บริโภค พร้อมการใช้แพลตฟอร์ม “กรมอนามัย CLEAN Together” (คลีน ทูเก็ตเตอร์) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและประชาชนผู้เข้าใช้บริการ ซึ่งผ่านการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่ทางเข้าโซนนิ่ง ตรวจคัดกรองลูกค้า ตรวจวัดไข้ สแกนลงทะเบียน QR Code ไทยชนะ และมาตรการอื่นๆ ตามที่สาธารณสุขกำหนด แต่จะเปิดบริการเพียงบางส่วนเท่านั้น เฉพาะที่มีลูกค้ามาใช้บริการ เพราะยังไม่แน่ใจว่า การตอบรับของลูกค้าจะมากน้อยเพียงใด เนื่องจากยังมีข้อจำกัดเรื่องการจัดประชุม สัมมนา ต้องไม่เกิน 50 คน ทำให้กรุ๊ปใหญ่ๆยังไม่ติดต่อเข้ามา
ส่วนเรื่องความคุ้มทุนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ต้องคำนึงถึง เพราะแม้จะกระตุ้นให้ส่วนราชการจัดประชุมสัมมนาในโรงแรมพื้นที่จังหวัด แต่ยังต้องเป็นกลุ่มเล็กๆ จึงทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนไม่มากนัก สถานประกอบการโรงแรมจึงต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ อยู่ ดังนั้น จึงอยากเสนอเรื่องการผ่อนปรนมาตรการ ไม่ควรจำกัดจำนวนแค่ 50 คน เพราะศักยภาพของโรงแรมขนาดใหญ่ในจังหวัด ส่วนใหญ่มีห้องพักและห้องประชุมสัมมนาที่รองรับลูกค้าได้มากถึง 1,500 คน และแม้จะทำ Social Distancing แล้ว ก็ยังสามารถรองรับได้กว่า 700-800 คน จึงอยากให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้ช่วยทบทวนพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย
“สำหรับเรื่องนักท่องเที่ยวและกรุ๊ปทัวร์ต่างๆ ก็ยังสวนทางกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด ที่ให้เปิดรับนักท่องเที่ยวได้ แต่ยังติดข้อจำกัดเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศเคอร์ฟิว จึงทำให้ลูกค้าตลาดทั้งในและต่างประเทศกังวลว่า จะไปเที่ยวไปพักสถานที่ต่างๆ ก็ต้องถูกกักตัว 14 วันเมื่อเข้ามาใช้บริการในพื้นที่จังหวัดฯ แต่อย่างไรก็ตาม ทางโรงแรมได้เตรียมความพร้อมไว้อย่างเต็มที่ตามมาตรการของรัฐบาลและจังหวัดกำหนด ทั้งยังได้ทำแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวกับทางจังหวัด และ ททท. โปรโมตตอบแทนกลุ่มแพทย์และพยาบาล ที่แวะเวียนมาพัก-มาเที่ยวในจังหวัดในห้วงเดือนมิถุนายน และเดือนกรกฎาคมนี้ โดยให้ส่วนลด 50% หรือมาพัก 2 วันจ่ายเพียง 1 วัน เพื่อให้ทีมแพทย์และพยาบาลทั่วประเทศได้พักผ่อน คลายความเครียดจากการเหน็ดเหนื่อย ทุ่มเทสู้กับวิกฤตโควิดมาตลอดระยะเวลาหลายเดือน ซึ่งทางโรงแรมได้จัดพนักงานรายวัน มาเตรียมดูแลอย่างเต็มที่ตามมาตรฐานการบริการที่โรงแรมกำหนด ส่วนพนักงานประจำที่หยุดงานตามประกาศปิดโรงแรมชั่วคราวจนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 นั้น จะกลับมาทำงานตามปกติในวันที่ 8 กรกฎาคม 2563” นายสวัสดิ์กล่าว
