เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ต.อ.วิวัฒนชัย์ ธรรมวิทยาภูมิ ผกก.สภ.นาหม่อม จ.สงขลา รับแจ้งพบศพถูกฆ่าฝังดินภายในสวนมะพร้าว บ้านนาต้นปีก หมู่ 6 ต.ทุ่งขมิ้น อ.นาหม่อม จ.สงขลา รุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 กำลังตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.นาหม่อม ชุดสืบสวนภาค 9 และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา
พบว่ามีขวดน้ำกระท่อมในสวนมะพร้าว มีร่องรอยของหลุมที่ถูกขุดขึ้นมาไม่นาน และร่องรอยของการจุดไฟเผาบนพื้นดินใกล้ๆ กัน ที่หลุมมีข้อมือโผล่ขึ้นมาจากดิน เจ้าหน้าที่จึงขุดลงไปพบกับโครงกระดูกอีกหลายชิ้น แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชิ้นส่วนใดของร่างกาย เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการขุดหลุมเพื่อหาชิ้นส่วนอื่นของร่างกายว่าถูกฝังอยู่ในหลุมเดียวกันหรือไม่ หรือมีการแยกชิ้นส่วนศพแยกฝัง
รายงานข่าวว่า ในหลุมพบสร้อยข้อมือสเตนเลส 1 เส้น และเศษโทรศัพท์ที่ถูกเผา ในกระท่อมยังมีใบกระท่อมที่ใส่อยู่ในขวดน้ำอัดลมขนาด 1 ลิตร 2 ขวด อุปกรณ์เสพยาไอซ์ ถุงแบ่งยาไอซ์ และร่องรอยของการเสพยา
จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและการชันสูตรศพในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด และมีการเผาหรือแยกชิ้นส่วนร่างกายเพื่อทำลายหลักฐานหรือไม่
จากการสอบสวนทราบว่าศพที่พบคือ นายวรัญชิต หนูสันทัด อายุ 23 ปี หรือฟิล์ม ซึ่งมีบ้านพักอยู่ห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม.
รายงานข่าวว่า หลังจากที่นางอังศุวีร์ ขุนหมุด อายุ 43 ปี แม่ และ น.ส.ศุภรัศมิ์ พวงมาลา อายุ 18 ปี หรือเหมียว ซึ่งเป็นภรรยา มาดูศพและเห็นสร้อยข้อมือสเตนเลสก็ยืนยันว่าเป็นสร้อยที่นายวรัญชิตใส่เป็นประจำและเชื่อว่าศพที่พบเป็นศพของนายวรัญชิตที่หายออกจากบ้านไปตั้งแต่กลางคืนของวันที่ 9 พ.ค.63 และญาติได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นาหม่อม จ.สงขลา
นางอังศุวีร์บอกว่าลูกชายหายไปตั้งแต่คืนวันที่ 9 พ.ค. และได้แจ้งกับตำรวจ สภ.นาหม่อม และทุกครั้งที่มีการพบศพก็ไปดูมาตลอดแต่ก็ไม่ใช่ แต่ครั้งนี้จำสร้อยข้อมือได้เพราะลูกชายใส่มาหลายปี ซึ่งเป็นสร้อยที่แฟนซื้อให้
ด้าน น.ส.ศุภรัสมิ์ หรือเหมียว ภรรยาสาวบอกว่า ศพที่พบเป็นสามีของเธอจากสร้อยสเตนเลสที่พบในหลุมเพราะเธอเป็นคนซื้อให้เอง และสามีใส่ตลอดไม่เคยถอด โดยสามีหายออกจากบ้านไปตั้งแต่คืนวันที่ 9 พ.ค. ขณะอาบน้ำเสร็จได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 125 สีม่วง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งรถก็หายไปด้วย
“สุดท้ายที่สามีแชตไลน์มาหาคือตอนเที่ยงคืนวันที่ 9 พ.ค. ว่า ‘รักเหมียวนะ รักเหมียวคนเดียว ฟิล์มขอโทษและรักลูกทั้งสองคนนะ’” หลังจากนั้นตอนตี 2 ได้ตอบไลน์กลับไปหาแต่ก็ไม่เปิดอ่านและโทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ทั้งสองเครื่องและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย”
น.ส.ศุภรัสมิ์กล่าวว่า ที่ขนำสามีมักจะมานั่งกับกลุ่มเพื่อนที่รู้จักกัน 6-7 คนเป็นประจำ แต่หลังจากที่หายตัวไปเพื่อนกลุ่มนี้ก็ไม่เคยมีใครหามาสามี หรือมาถามว่าสามีไปไหน ตนได้ติดต่อไปถามก็ไม่มีใครบอกว่าสามีไปไหน และช่วงหลังๆ ทราบว่าสามีเริ่มมีปัญหากับเพื่อนในกลุ่มและพยายามแยกตัวออกมา ในคืนเกิดเหตุก็คาดว่าน่าจะมาที่ขนำนี้
รายงานข่าวว่า หลังเกิดเหตุมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.นาหม่อม ได้ล็อกตัววัยรุ่นต้องสงสัยซึ่งเป็นเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันไปสอบสวนแล้ว 1 คน ส่วนสาเหตุก็น่าจะมีปัญหากับเพื่อนในกลุ่ม ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดตามหลักฐานที่พบในขนำหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน
