ย้ายเรือประมงผิดไอยูยู เทียบท่าเรือแหลมทวดดอนสัก

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่กองควบคุมการค้าสัตว์น้ำและปัจจัยการผลิต กรมประมง ร่วมกับศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง เจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี/ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือ จ.สุราษฎร์ธานี หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะเต่า ฝ่ายปกครองอำเภอดอนสัก ประมงอำเภอดอนสัก และเทศบาลเมืองดอนสัก ได้ร่วมตรวจสอบการเคลื่อนย้าย เรือแกรนด์มาริน5( GRAND MARINE 5)สัญชาติปานามา พร้อมลูกเรือชาวไทย 8 คน จากแหลมโจรคร่ำ อ.เกาะสมุย เข้าท่าเทียบเรืออเนก ประสงค์ (แหลมทวด) อ.ดอนสัก โดยมีปริมาณน้ำจืดในเรือ 60,000 ลิตร และน้ำมันเชื้อเพลิง 800 ลิตร สภาพเรือและเครื่องยนต์ ปกติ

ทั้งนี้ เรือลำนี้มีชื่อเดิม โชติชัยนาวี 5 สัญชาติไทย มีขนาด 687 ตันกรอสส์ เป็นเรือประมงเครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ต่อมาไปจดทะเบียนประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 8 พ.ย.54 ใช้ชื่อ เอาแอนด์ที สามูดีรา จาย่า 3 ต่อมาปี 2559 ถูกตรวจสอบพบมี 2 สัญชาติ จึงถูกถอนสัญชาติไทย และได้รับอนุญาตให้ออกจากประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 29 ต.ค.62 และได้จดทะเบียนใหม่ใช้ชื่อ เนวิเกชั่น สเปเชียล รีจิสทรี สัญชาติปานามา แต่ข้างเรือใช้ชื่อ แกรนด์มาริน 5 ได้เข้าเทียบที่ท่าเรือสงขลา เมื่อวันที่ 24 พ.ย.62
มาถึงเกาะพะงันวันที่ 29 พ.ย.62 ทิ้งสมออยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะพงัน 0.75 ไมล์ทะเล (1.3 กิโลเมตร) เพื่อรับน้ำมัน เสบียง และซ่อมเครื่องยนต์ โดยเข้ามาในน่านน้ำไทยไม่ได้มีการแจ้งเข้ากับกรมประมงแต่อย่างใด

จากการตรวจสอบศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ถือว่าเป็นเรือที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) ถูกแจ้งข้อหา ไม่แจ้งเข้ามาในน่านน้ำไทยตามมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และ การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 เป็นเรือประมงที่ไม่ใช่เรือประมงไทยเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่แจ้งเข้าท่าล่วงหน้าตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตรา 95 แห่ง พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 นอกจากนี้เรือไม่ได้ติดตั้งระบบอุปกรณ์แสดงตนอัตโนมัติ (AIS)และ เรือไม่มีหมายเลขแสดงเอกลักษณ์ประจำเรือ (IMO)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image