ห้างดังพัทยาแจง หลังโซเชียลแชร์ห้ามพนง.เดลิเวอรี่เข้า เผยเป็นความเข้าใจผิด
จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพนักงานส่งอาหารเดริเวอร์รี่ว่า เกิดความสงสัยกับมาตรการของศูนย์การค้าชื่อดังย่านถนนพัทยาเหนือ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยสั่งห้ามไม่ให้พนักงานรับส่งของเดลิเวอร์รี่สวมชุดเครื่องแบบพนักงานประจำค่ายต่างๆ เข้าไปเดินภายในตัวศูนย์การค้าฯ โดยอ้างว่าทำข้อตกลงและได้รับคำสั่งจากเมืองพัทยาไม่ให้กลุ่มเดลิเวอร์รี่ใส่ชุดเข้าไปสั่งและส่งของในห้าง เพราะอาจเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อเชื้อโควิด-19 สร้างความงุนงงเป็นอย่างมาก จึงได้มีการบันทึกคลิปแล้วนำไปโพสต์เผยแพร่ลงบนสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์คเฟสบุ๊ค เพื่อหาคำตอบของเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณลานจอด รถ จยย.หน้าห้างเทอร์มินอล 21 เมืองพัทยา พบว่ามียังแกร๊บและพนักงานส่งอาหารมารับของจากห้างเทอร์มินอล 21 พัทยา ซึ่งทุกคนก็ถอดเสื้อคลุมแกร๊บทิ้งไว้กับ จยย. แล้วเดินเข้าไปยังห้างไปรับของออกมา ก่อนสวมเสื้อแกร๊บแล้วไปส่งของให้ลูกค้า
ด้านพนักงานแกร๊บ (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เปิดเผยว่า โดยปกติไปห้างอื่นก็ไม่บังคับนะ แต่ก่อนห้างเทอร์มินอล 21 ก็ไม่ได้ห้าม หลังมีการแพร่ระบาด และเปิดห้างมาก็สั่งห้าม ซึ่งตนเองก็ไม่อยากมารับของที่นี่แต่มีลูกค้าสั่งเลยต้องวิ่งมา
ทางด้าน น.ส.วิไลวรรณ อ.เจริญกรุง ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ได้เปิดแถลงชี้แจงต่อกรณีที่เกิดแก่สื่อมวลชนโดยระบุว่าตามข้อเท็จจริงแล้วทางห้างสรรพสินค้าฯ ไม่เคยมีนโยบายในการสั่งห้ามไม่ให้พนักงานรับส่งของเดลิเวอร์รีเข้ามาในห้างฯ ตามที่มีการเสนอข่าวแต่อย่างไร เพียงแต่น่าจะเป็นการสื่อสารที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดแก่พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างมากกว่า เนื่องจากที่ผ่านมาจากนโยบายการผ่อนปรนของภาครัฐบาลเกี่ยวกับการเปิดห้างสรรพสินค้านั้นตามหัวข้อ 1.10 นั้นได้ระบุไว้ว่าจะกำหนดพิจารณาให้มีช่องทางเข้าออก ที่นั่งรอ และที่จอดรถเฉพาะสำหรับผู้ให้บริการขนส่งอาหารและสินค้า รวมทั้งจุดให้ บริการน้ำยาทำความสะอาด เช่นแอลกอฮอล์ 70 % สำหรับทำความสะอาดถุงมือ และจักรยานยนต์ ซึ่งทางห้างได้จัดสถานที่รองรับไว้เป็นอย่างดีบริเวณที่จอดด้านหลังห้างมาตรการ ศบค.โดยแยกเป็นสัดส่วนจากประตูทางเข้า-ออกลูกค้าตามปกติ
ขณะที่ทางเข้า-ออกหลักด้านหน้า ทางพนักงาส่งรับสินค้าเดลิเวอร์รี่จะใช้เวลาในช่วงการรอรับอาหารมาเดินเล่นให้ห้างฯ โดยสวมใส่เสื้อแจ็ตเก็ตสัญลักษณ์ขององค์กรใดๆ ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่อาจจะเข้ามาเดินเล่นหรือซื้อสินค้าได้เหมือนลูกค้าทั่วไป ที่สำคัญทางเข้า-ออกของห้างก็มีมาตร การตรวจเข้มเช่นกัน ทั้ง การบังคับสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดไข้ และเจลล้างมือ เพียงแต่หากพนักงานเหล่านี้ถูกเรียกให้ไปรับสินค้าที่สั่งไว้ก็ให้ไปรับไปที่จุด Loading ด้านหลังห้างที่กำหนดไว้เท่านั้น เรื่องนี้ถือเป็นการสื่อสารระหว่างผู้บริหารกับเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่อาจทำให้พนักงาน รปภ.เกิดความเข้าใจผิดและหวังดีเกินไป จนไปบังคับพนักงานส่งของให้ถอดเสื้อแจ็ตเก็ตออกก่อนจะเข้ามาเดินในห้าง ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของทางห้างเองที่ไม่มีการอธิบาเหตุผลให้กับพนักงานที่ชัดเจน โดยหลังเกิดเหตุการณ์ก็ได้เรียกพนักงาน รปภ.มาอบรมและสร้างความเข้าใจใหม่ รวมถึงพนักงานโดยรวมของห้างด้วย ยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกแน่นอน
