ร้านนวดเชียงใหม่ ยังไม่พร้อมเปิด ชี้ 90% ตลาดต่างชาติ วอนรัฐช่วย ปิด 3 เดือนเสียหายพันล้าน

ร้านนวดไทยยังไม่พร้อมเปิดบริการ แม้ ศบค.ปลอดล็อกเฟส 3 เผย 90% เป็นตลาดต่างชาติ วอนรัฐหามาตรการช่วย หลังปิด 3 เดือนเสียหายนับพันล้าน

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ชมรมผู้ประกอบการนวดไทยล้านนา ประชุมผู้ประกอบการร้านนวดแผนไทย เพื่อหารือและซักซ้อมความเข้าใจ เกี่ยวกับมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดให้ร้านนวดไทยปฏิบัติตาม หลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 ให้สถานประกอบการนวดไทยเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้

โดยผู้ประกอบการต้องจัดพื้นที่ให้บริการ เช่น เตียงนวด อ่างล้างเท้า เก้าอี้นวด เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตร รวมทั้งจัดจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จัดเจลล้างมือ และจุดลงทะเบียนผู้เข้ารับบริการ รับชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้ต้องให้พนักงานเข้าทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และทำความสะอาดอุปกรณ์สำหรับการนวด เช่นไม้กดจุดเท้าทันที และสม่ำเสมอ

ส่วนพนักงานนวด ต้องสวมหน้ากากอนามัย และเฟสชิลด์ ทุกครั้งที่ให้บริการลูกค้า เช่นเดียวกับลูกค้าก็ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากไม่สวมทางร้านต้องจัดเตรียมไว้บริการ โดยก่อนกลับมาเปิดให้บริการได้ ผู้ประกอบการร้านนวดไทย ต้องปฎิบัติตามแบบประเมินความพร้อมกว่า 30 ข้อ ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด พร้อมแนบภาพถ่ายส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หากผ่านการประเมินความพร้อมก็จะอนุญาตให้เปิดบริการได้

น.ส.นันทวัน ชุติพงษ์วิเวท ประธานชมรมผู้ประกอบการนวดไทยล้านนา เผยว่า ในชมรมมีสมาชิกประมาณ 90 ราย คาดการณ์ว่าจะพร้อมเปิดบริการได้เพียง 30 รายในช่วงแรก ส่วนที่เหลือขอรอดูสถานการณ์ไปก่อน ส่วนหนึ่งเพราะมาตรการที่ผู้ประกอบการต้องปฎิบัติตามค่อนข้างยุ่งยาก ทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดทำให้รับลูกค้าได้น้อยลง

Advertisement

“นอกจากนี้ไทยยังปิดประเทศไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา เพราะสถานการณ์ในต่างประเทศก็ยังไม่คลี่คลาย มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นศูนย์ การกลับมาเปิดให้บริการจึงต้องพึ่งพาตลาดคนไทย ซึ่งช่วงแรกก็ต้องทำโปรโมชั่นลดราคาเพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ เพราะลูกค้าเองก็ยังไม่มีความมั่นใจ”

น.ส.นันทวัน กล่าวอีกว่า คาดว่ารายได้ในช่วงแรกหลังกลับมาเปิดบริการคงไม่เหมือนเดิม ซึ่งในจังหวัดเชียงใหม่มีร้านนวดไทยที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง 640 ร้าน ขณะที่กลุ่มลูกค้าหลักคือนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 80-90% ส่วนตลาดคนไทยมีสัดส่วนเพียง 10-20% เท่านั้น สำหรับธุรกิจร้านนวดไทยในจังหวัดเชียงใหม่ มีรายได้รวมต่อปีไม่ต่ำกว่า 900 – 1,000 ล้านบาท แต่หลังต้องปิดไปนานกว่า 3 เดือน ก็สูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละหลายร้อยล้านบาท เมื่อรวมกับพนักงานนวดที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องกว่า 1,500 รายที่ต้องตกงาน คาดว่า 3 เดือนที่ผ่านมามีมูลค่าความเสียหายราว 1,000 ล้านบาท

ด้าน น.ส.ฐิติยา เอี่ยมอินทร์ เจ้าของร้านนวดไทย ไทม์ ทู มาสสาจ ย่านถนนราชดำเนิน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางร้านยังไม่มีความพร้อมเปิดให้บริการแม้ภาครัฐจะคลายล็อกให้แล้ว เพราะร้านส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว และลูกค้ากว่า 90% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะเดียวกันการปฎิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เปิดไปแล้วจะลูกค้าหรือไม่ก็ยังไม่มั่นใจ จึงอยากให้ภาครัฐช่วยเหลือกระตุ้นตลาดคนไทย เช่น ให้สวัสดิการแก่พนักงานเอกชนในระบบประกันสังคม สามารถเข้ามาใช้บริการและเบิกค่าใช้จ่ายจากประกันสังคมได้ หรือให้สิทธิกับข้าราชการ สามารถนำบิลค่าใช้จ่ายเมื่อรับบริการนวดไปเบิกกับต้นสังกัดได้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image