ช้างป่าจากอ่างฤๅไนบุกสระแก้ว เจ้าหน้าที่ห้ามออกจากบ้าน หวั่นช้างทำร้ายคน
ช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน บุกสระแก้ว เจ้าหน้าที่แจ้งชาวบ้านห้ามออกจากบ้าน หวั่นทำร้ายคนประชาชน อาจไม่ปลอดภัย หากต้อนไปที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน แจ้งว่า ช้างป่า จำนวน 1 ตัว อายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี หนักไม่ต่ำกว่า 5 ตัน ได้ออกจากพื้นที่เขตรักษาพัน์สัตว์ป่า เขาอ่างฤๅไน เดินทางเข้าพื้นที่ จังหวัดสระแก้ว และตามวันเวลาดังกล่าว ช้างป่าเดินทางไปโผล่ที่บ้านหนองฟักทอง หรือบ้านหนองหมากอึ ต.หนองตะเคียนบอน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา เจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ตำรวจ วัฒนานคร ผู้ใหญ่บ้าน ติดตามดูตลอดเวลา ซึ่งช้างได้เดินทางออกมาหากินห่างออกมา มีระยะทางกว่า 90 กิโลเมตรแล้ว และอยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติปางสีดา ประมาณ 10 กิโลเมตรเท่านั้น หากจะต้อนกลับไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาฤๅไน จะเกิดความยุ่งยาก และผ่านหมู่บ้านคนจำนวนมาก ประชาชน อาจไม่ปลอดภัย หากต้อนไปที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา ซึ่งมีระยะทางไม่ไกลมากนัก โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา ได้เข้าสมทบกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไนแล้ว เพื่อดูแลและต้อนช้างเข้าสู่ป่าอุทยานแห่งชาติปางสีดา
ทางด้านนายบุญเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติปางสีดา เผยว่า ทราบว่า ช้างป่า จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์เขาอ่างฤๅไน จ.ฉะเชิงเทรา ได้ออกหากินนอกเขตพื้นที่ โดยมุ่งหน้าเข้าพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และครั้งล่าสุดได้พบที่บริเวณป่าบ้านหนองฟักทอง หรือบ้านหนองหมากอึ – บ้านช่องกล่ำ ต.หนองตะเคียนบอน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากอุทยานแห่งชาติปางสีดามากนัก เจ้าหน้าที่จึงได้หารือกันว่าจะต้อนกลับไปที่เขาอ่างฤๅไน หรือจะต้อนเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา และต่างเห็นว่า อาจจะต้อนเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา เนื่องจากอยู่ไม่ไกลมากนัก ประกอบกับอุทยานแห่งชาติปางสีดา มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ช้างคงจะอยู่ได้ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าต้องดูทิศทางการเดินทางของช้างด้วย โดยจะไม่เข้าไปกดดันช้าง จะทำให้ช้างเครียด อาจทำอันตรายผู้คนได้ ดังนั้น เจ้าหน้าจะทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวเดินทางออกจากบ้าน จนกว่าช้างจะเดินทางออกนอกหมู่บ้าน และเห็นว่าปลอดภัยแล้ว เท่านั้น
