เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดุษฎี นินกาซัน อายุ 52 ปี พร้อมด้วย น.ส.โนทรวง ภรรยาชาวกัมพูชา อายุ 45 ปี ชาว ต.ดงน้อย อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ได้นั่งรถตู้โดยสารเดินทางออกจากบ้านมายังสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อขอพบผู้สื่อข่าวให้ช่วยติดตามความคืบหน้ากรณีเคยร้องเรียนเรื่องผลกระทบจากผู้ประกอบการในพื้นที่ดินแปลงข้างเคียงติดกับบ้านพัก โดยนำแกลบทรายมาผสมกันเพื่อทำเป็นเชื้อเพลิงป้อนเข้าสู่โรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งย่าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีรถบรรทุกพ่วงวิ่งเข้าออกพื้นที่เป็นประจำ ทั้งยังมีการใช้รถตักดินพลิกกลับกองแกลบเพื่อผสมกับทรายให้เข้ารวมกัน จนเกิดเป็นปัญหาฝุ่นละอองฟุ้งกระจายออกมารบกวนครอบครัวจำนวนมาก ทำให้เกิดอาการคันผิวหนังจากฝุ่นละอองที่ปลิวลอยมาเกาะเสื้อผ้า เครื่องนอน ตลอดจนสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน
นายดุษฎีกล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมไปยังทางอำเภอราชสาส์น อบต.ดงน้อย ศูนย์ดำรงธรรม จ.ฉะเชิงเทรา และสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 หลังจากเอกชนรายนี้ได้เข้ามาเช่าแปลงที่ดินข้างเคียงแล้วหลายครั้ง (เมื่อ ต.ค.62) แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ตนแต่อย่างใด โดยทางผู้ประกอบการยังคงมีการเทกองแกลบและทรายเข้าผสมกันเหมือนเดิม บนแปลงที่ดินเนื้อที่ประมาณ 19 ไร่ จากนั้นจึงทำการขนย้ายตักใส่รถบรรทุกพ่วงนำไปส่งขายให้แก่ทางโรงไฟฟ้า
นายดุษฎีกล่าวว่า กระบวนการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อครอบครัวของตน ที่มีบ้านเรือนและแปลงที่ดินติดกันจำนวน 8 ไร่ ที่ผ่านมา หลังการร้องเรียนได้มีหน่วยงานต่างๆ ลงมาดู แต่ยังไม่เคยเห็นเข้าไปแก้ไขปัญหา ให้ผู้ประกอบการรายนี้ยุติการสร้างปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อตน หรือออกไปจากพื้นที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังกลับเป็นฝ่ายเข้ามาตรวจสอบหาเอกสารที่เกี่ยวกับภรรยาของตนว่าเข้าเมืองมาอยู่อย่างถูกต้องหรือไม่
“ภรรยาผมมีเอกสารการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับยังไม่ได้เข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นให้ในพื้นที่แปลงดังกล่าว จึงต้องเดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือจากทางสื่อมวลชนอีกครั้ง เพื่อให้หน่วยงานผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาจากผู้ประกอบการที่ก่อมลพิษและสร้างความเดือดร้อนดังกล่าวให้แก่ชาวบ้านอย่างเช่นครอบครัวผม” นายดุษฎีกล่าว
