หนุ่มรับเหมาก่อสร้างหายตัว ภรรยาเปิดจีพีเอสตามหา พบเป็นศพคารถกระบะ จนท.ส่งชันสูตรหาสาเหตุ

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ต.ต.สายัณห์ อินลวง สว (สอบสวน) สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถกระบะจอดอยู่บริเวณที่ดินว่างเปล่า ริมถนนหลังสวนอุตสาหกรรมโรจนะ หมู่ 8 ต.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และ มูลนิธิพุทไธสวรรย์

ที่เกิดเหตุบริเวณที่ดินว่างเปล่าห่างจากถนนประมาณ 20 เมตร บริเวณใต้ต้นไม้พบรถกระบะ โตโยต้าวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 2กฆ 8149 กรุงเทพมหานคร จอดติดเครื่องอยู่ กระจกทุกบานปิดสนิท ภายในรถที่นั่งคนขับเบาะปรันเอนนอน พบศพนายพิรมย์ วงค์สุวรรณ อายุ 48 ปี ศีรษะเอนมาทางด้านซ้ายสวมเสื้อโปโลสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-6 ชั่วโมง ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย ที่เบาะข้างคนขับพบถุงผลไม้ชนิดต่างๆ 1 ถุง กระเป๋าคาดเอวสีน้ำตาล ส่วนเบาะหลังพบเครื่องอุปกรณ์ช่าง ภายในรถไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย

ข้างรถพบนางนิตญา นนทะโคตร อายุ 39 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ผู้พบศพสามีคนแรกอยู่ในอาการเศร้าโศก

สอบถามนางนิตญาทราบว่า นายพิรมย์มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เมื่อช่วงเช้าสามีออกมาทำงานตามปกติ จนช่วงใกล้เที่ยงโทรศัพท์หาสามีแต่ไม่รับสาย พยายามติดต่อหลายครั้งแต่ติดต่อไม่ได้ จึงสอบถามไปตาม มูลนิธิและหน่วยงานต่างๆ เพราะเกรงว่าสามีจะประสบอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังได้ประกาศตามสื่อโซเชียลแต่ไม่ใครพบเห็นรถของสามี เมื่อตนเองเลิกงานจึงค้นหาโทรศัพท์สามีจากอีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้กับจีพีเอส ซึ่งตนเองเป็นคนตั้งไว้ ทั้งนี้ เมื่อพบพิกัดรถสามีแล้วได้รีบมา พบว่ารถกระบะจอกติดเครื่องยนต์อยู่ แต่เปิดประตูไปกลับพบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว

Advertisement

นางนิตญากล่าวว่า นายพิรมย์ สามี ร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว แต่ทราบจากลูกน้องคนก่อสร้างว่าสามีบ่นปวดศีรษะได้ประมาณ 2-3 วัน และไม่ทราบว่าทำไมสามีถึงได้มาจอดรถยนต์นอนเสียชีวิตบริเวณนี้

บื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตน่ามีอาการป่วย ปวดศีรษะตามคำให้การของคนงานก่อสร้างและแวะจอดนอนพักริมทางจนเกิดอาการช็อกหมดสติ เสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งร่างผู้เสียชีวิตไปส่งชันสูตรที่นิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image