โรครุมเร้าสุดหนุ่มรับจ้างพูดเป็นลางกับเมียก่อนแอบคว้าสายไฟผูกคอดับคาห้องพัก

โรครุมเร้าสุดหนุ่มรับจ้างพูดเป็นลางกับเมียก่อนแอบคว้าสายไฟผูกคอดับคาห้องพัก

ป่วยโรครุมเร้า สุดทนไหว หนุ่มอาชีพรับจ้างไม่อยากอยู่สร้างภาระ พูดเป็นลางกับเมีย ก่อนแอบหยิบสายไฟ ผูกคอดับคาห้องพัก เมียช็อกแจ้งความ ก่อนมอบให้กับญาติ รับกลับไปทำตามพิธีทางศาสนาต่อไป

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ร่วมกันตรวจสอบเหตุมีชาวบ้านก่อเหตุผูกคอฆ่าตัวตาย โดยเหตุเกิดภายในห้องพักไม่มีเลขที่ พื้นที่ บ้านทุ่งชมูล ม.2 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบเป็นห้องเช่าไม้กึ่งปูนปลูกติดกัน 3 หลัง โดยห้องพักห้องที่ 2 พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย นอนหงายอยู่บนพื้นปูนกลางห้อง สวมกางเกงขาสั้น
สีน้ำตาล ไม่สวมเสื้อ หลังจากญาติๆ ได้ช่วยกันนำร่างลงมาจากสายไฟ ที่ผู้เสียชีวิต ใช้มัดกับขื่อโครงหลังคา เพื่อผูกคอฆ่าตัวตาย
ตรวจสอบภายในห้อง ยังพบมีโต๊ะและเก้าอี้ไม้ 2 ตัว วางต่อเป็นขั้น คาดเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ตาย ใช้ปีนขึ้นไปเปิดฝ้าเพดาน ก่อนใช้สายไฟมัดกับขื่อเหล็กเพื่อผูกคอ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายภาพบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายอำนาจ มุกแก้ว อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/48 ม.1 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี ขณะที่ น.ส.บัณฑิตา อัมพวัน อายุ 51 ปี ให้การว่า นายอำนาจ ผู้ตาย เป็นสามีของตนเอง โดยก่อนเกิดเหตุตนเองได้ออกไปทำงานนอกบ้าน กว่าจะกลับเข้าบ้านมากก็ช่วงค่ำ
ซึ่งเมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้าน ก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่า นายอำนาจ สามีได้ใช้สายไฟ ผูกคอกับขื่อเหล็กภายในบ้าน จึงได้รีบตะโกนเรียกเพื่อนบ้าน ให้มาช่วยกัน แกะสายไฟออกจากคอ ก่อนช่วยกันนำร่างลงมาวางไว้ที่พื้น แต่ก็พบว่าได้เสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้ว
น.ส.บัณฑิตา ยังให้การเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบัน นายอำนาจ มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนสาเหตุ น่าจะเกิดจากที่ นายอำนาจ สามี ป่วยมีโรคประจำตัว ซึ่งต้องกินยาอย่างสม่ำเสมอ โดยระยะหลังมักจะพูดบ่นเป็นลางกับตนเองบ่อยครั้งว่า ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้พยายามปลอบใจ และให้กำลังใจ โดยไม่คาดคิดว่า นายอำนาจ จะลงมือก่อเหตุผูกคอฆ่าตัวตายจริง อย่างไรก็ตาม หลังการตรวจสอบร่องรอยในที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำพยานแวดล้อม บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิต นำส่ง รพ.พระปกเกล้าฯ เพื่อให้แพทย์ตรวจชันสูตร ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ก่อนมอบให้กับญาติ รับกลับไปทำตามพิธีทางศาสนาต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image