ช่างทำสีอู่รถยนต์ชื่อดัง กลายเป็นศพถูกห่อผ้าห่มอืดคาห้องเช่า จนท.เร่งชันสูตรหาสาเหตุการตาย
วันที่ 31 พฤษภาคม เวลา 11.10 น. ร.ต.ท.ณัฐพร ประจงจัด รอง สว.สส.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจาก นายคงเดช จีนะศิริ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/2 ม.3 ต.เกาะขวาง อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี ว่า มีผู้เสียชีวิตลักษณะมีผ้าห่ม ห่อพันร่างกาย อยู่ภายในห้องเช่า (ขอสงวนเลขที่ห้อง) พื้นที่ ม.3 ต.เกาะขวาง อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยยังไม่ทราบสาเหตุ หลังรับแจ้ง ได้พร้อมแพทย์เวร รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ร่วมเดินทางตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ พบสถานที่ดังกล่าวเป็นห้องแถวปลูกติดกันหลายห้อง โดยหน้าห้องเช่า ห้องที่สอง ซึ่งเป็นห้องพักที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีขาว หมายเลขทะเบียน ลยจ-690 กรุงเทพมหานครฯ จอดอยู่หน้าห้อง ขณะที่ประตูห้องถูกปิดล็อคจากด้านใน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ใช้กุญแจสำรองจากผู้ดูแลห้องเช่า เปิดประตูเข้าไปตรวจสอบภายในห้อง
เบื้องต้นพบศพชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายตระกูล จันทวรรณ อายุ 48 ปี อยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้า มีผ้าห่มพันรอบตัว สภาพศพเริ่มบวมอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
จากการสอบสวนของ ร.ต.ท.ณัฐพร ประจงจัด ร้อยเวรเจ้าของคดี เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำ นายคงเดช ผู้ที่เช่าห้องพักติดกัน และเป็นผู้พบศพคนแรก ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ปัจจุบันนายตระกูล ผู้ตาย มีอาชีพเป็นช่างปะผุ เคาะพ่นสี ที่อู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งใน ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยพักอาศัยอยู่ในห้องเช่าดังกล่าวเพียงคนเดียว
นายคงเดช กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้พบเห็น นายตระกูล ครั้งสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จนมาเช้าของวันนี้ หลังจากที่ตนเองตื่นนอนและเดินออกมาหน้าห้องเช่า ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งมาจากห้องข้างๆ ก่อนที่จะเดินไปเคาะประตูเรียก นายตระกูล อยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้ไปบอกผู้ดูแลห้องเช่า เพื่อขอกุญแจสำรองมาเปิดและเมื่อทำการเปิดเข้าไปในห้อง ก็พบร่างของนายตระกูล กลายเป็นศพนอน ห่อผ้าห่มเสียชีวิตขึ้นอืดคาห้อง จึงรีบแจ้งผู้ดูแลห้องเช่า และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต ตามร่างกายไม่พบบาดแผลที่เกิดจากการถูกทำร้าย หรืออุบัติเหตุ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน โดยหลังจากการตรวจสอบ ร่องรอยในที่เกิดเหตุ พร้อมถ่ายภาพ บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ทางร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิต ส่ง รพ.พระปกเกล้าฯ เพื่อให้แพทย์นิติเวช ทำการตรวจชันสูตรยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนติดตามให้ญาติ มารับกลับไปทำตามพิธีทางศาสนาต่อไป
