ช้างป่ากุยบุรีตายแล้วหลังบาดเจ็บหนัก สัตวแพทย์เร่งผ่าซากหาสาเหตุ
จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแหงชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบช้างป่าเพศผู้มีงา อายุ 5-6 ปี น้ำหนักประมาณ 700 กิโลกรัม มีบาดแผลที่สะโพกซ้ายและขวาเป็นรูทั้งสองข้าง แผลอักเสบเดินไม่ได้ นอนตะแคงในไร่ขนุนที่หุบหนองเสือ บ้านวังไทร หมู่ 7 ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด ห่างจากแนวเขตอุทยานฯ ประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นกองพิสูจน์หลักฐานใช้เครื่องสแกนตัวช้างพบวัตถุโลหะ 5 จุด ฝังอยู่บริเวณไหล่ 1 จุด สะโพกซ้าย 2 จุด ก้นซ้าย 1 จุด ก้นขวา 1 จุด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นวัตถุชนิดใด ขณะที่ทีมสัตว์แพทย์ได้เร่งชีวิตช้างอย่างเร่งด่วน โดยให้ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ และทำการล้างแผลจุดที่เกิดการอักเสบ พร้อมทำนำตัวอย่างเลือด ไปตรวจวิเคราะห์หาโรคสำคัญในช้างในห้องปฏิบัติการและเฝ้าอาการช้างอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโทงโดยใช้รอกช่วยพยุงตัวเพื่อง่ายต่อการรักษานั้น
วันที่ 31 พฤษภาคม นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้รับแจ้งจากทีมสัตวแพทย์ที่เฝ้าดูแลรักษาช้างว่า ช้างมีอาการท้องอืด ไม่มีแรง ไม่กินอาหาร จึงรักษาอาการท้องอืดโดยฉีดยาลดกรด และช่วยกันนวดบริเวณท้องช้างเพื่อบรรเทาอาการท้องอืด ล้วงทวารช้างเพื่อนำมูลออกมาพบว่ามีพยาธิจำนวนมาก ล้วงทางปากเพื่อนำเศษอาหารที่ค้างอยู่ออกมาเพื่อช่วยการหายใจให้ดีขึ้น พร้อมให้น้ำเกลือโดยตลอด ขณะเดียวกัน มีฝนตกในพื้นที่ทำให้อากาศเย็น ทีมสัตวแพทย์เกรงปัญหาช้างปอดบวมจึงได้ก่อเตาถ่าน 2 เตา ไว้ใกล้ช้างเพื่อเพิ่มความอบอุ่น กระทั่งเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน ช้างได้สินใจ ท่ามกลางความเสียดายของทีมสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่อุทยาน และชาวบ้านที่ติดตามการักษา
“ ขั้นตอนต่อไป ทีมสัตว์แพทย์จะได้ทำการผ่าซากช้างเพื่อหาสาเหตุให้แน่ชัดอีกครั้ง พร้อมทั้งเร่งตรวจสอบว่าโลหะที่เจ้าหน้าที่สแกนพบในตัวช้างจะเป็นกระสุนปืนหรือไม่ หากใช่ก็จะดำเนินการเข้าแจ้งความเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด จากนั้นก็จะนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดบังสุกุลและทำการฝังกลบซากช้างต่อไป” นายพิชัย กล่าว
