เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือทวงถามต่อนายกรัฐมนตรี กรณีที่กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.ชลบุรี ออกมาเปิดโปงว่า มีกลุ่มบุคคลไม่ทราบหน่วยงาน ติดต่อโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยอ้างว่าจะพิจารณาคัดเลือกโรงแรมให้เป็นสถานที่กักตัวของคนไทยที่กลับจากต่างแดน หรือ State Quarantine แลกกับการหักหัวคิว 30-40% จากเงินที่รัฐบาลจ่ายให้ 1,000 บาทต่อรายต่อวันวัน และขณะนี้รัฐบาลทราบปัญหานานกว่า 10 วันแล้ว การแสวงหาข้อเท็จจริง หาผู้กระทำผิดและเครือข่ายผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องที่แท้จริง ยังไม่ปรากฏต่อสาธารณชนแต่อย่างใด ทั้งที่มีการระบุประจักษ์พยานใน จ.ชลบุรีอย่างชัดเจน และเจ้าหน้าที่ทหารได้ออกมาแถลงต่อสาธารณะยอมรับในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏว่ามีการนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายแต่อย่างใด
“ กรณีนี้เป็นเรื่องใหญ่ เชื่อว่าน่าจะทำกันอย่างเป็นกระบวนการ เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชน นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. จะต้องรับผิดชอบในการหาตัวผู้กระทำการดังกล่าวมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพียงแค่สั่งการไปแล้ว และรอรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เพราะกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา รวมทั้งสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี กล้าออกมาเปิดเผย และสอดคล้องกับฝ่ายความมั่นคงหรือทหาร ก็ได้ออกมาแถลงยอมรับว่ากรณีดังกล่าวเป็นความจริง มีการกระทำกันมากว่า 3-4 คน “ นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า สมาคมฯทวงถามถึงนายกรัฐมนตรี เร่งรัดสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งสืบหาและจับกุม นำตัวผู้กระทำความผิด กรณีข่าวการหักหัวคิวโรงแรมมาลงโทษ ฐานฉ้อโกงประชาชนหากปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไป ก็อาจส่อพิรุธหรือเป็นที่ครหาแสดงให้เห็นว่า อาจมีคนสนิทบุคคลระดับสูงในรัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ใน ศบค. หรือในจังหวัดที่เกิดเหตุรู้เห็นเป็นใจ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าจับกุมใช่หรือไม่