โอละพ่อ!! ที่แท้จำผิด จบด้วยดี ป้าอ้างถูกสวมสิทธิเงินเยียวยา สุดท้ายจำไม่ได้เปิดบัญชีที่โคราช

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้านางลัดดา สมบูรณ์ ชาวประมงคลองใหญ่ เข้าพบตำรวจสภ.เมืองตราดและนายนราธิป สุรรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาตราด อ้างว่าชื่อตัวเองถูกสวมสิทธิรับเงินเยียวยาเกษตร เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

โดยเช้าวันนี้เวลา 09.30 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2563 นางลัดดา สมบูรณ์ ชาวประมงคลองใหญ่ เดินทางมาเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เล่มใหม่ เพื่อรับเงินเยียวยาเกษตร 5,000 บาท หลังจากที่นายนราธิป ได้ตรวจสอบบัญชีนางลัดดา พบว่าเป็นเพียงการหลงลืมเท่านั้น ไม่มีใครสวมสิทธิรับเงินเยียวยาแต่ใด

 

Advertisement

นายนราธิป กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องแล้ว ได้ตรวจสอบชื่อนางลัดดา สมบูรณ์ และพบว่านางลัดดา มีการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาห้วยแถลงจริง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 จึงให้ทางสาขาห้วยแถลง ส่งเอกสารการเปิดบัญชีทั้งหมดมาให้สาขาตราด เพื่อให้นางลัดดา ตรวจสอบทั้งชื่อ ทั้งบัตรประชาชน รวมไปถึงลายมือเซ็นต์ชื่อด้วย เมื่อนางลัดดา ตรวจสอบแล้ว ก็ยอมรับว่าทั้งหมดเป็นของตนเองจริง แต่จำไม่ได้ว่าเคยเปิดบัญชีไว้ที่สาขา และไม่มีการสวมสิทธิ์รับเงินเยียวยาแต่อย่างใด แต่เกิดจากความเข้าใจผิดและลืมว่าเคยเปิดบัญชีไว้

“ซึ่งกระบวนการโอนเงินเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาท จะเป็นกระบวนที่อำนวยความสะดวกให้กับเกษตรให้ได้อย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่แล้วลูกค้า ธกส.สาขาตราด มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นเกษตรกร และที่ผ่านมาหากมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรจากภาครัฐนั้น จะมีการโอนเงินเข้าบัญชี ธกส. เพื่อง่ายต่อการจัดการ ซึ่งนางลัดดา ก็เป็นเกษตรกร ภาคประมงเช่นกัน และได้รับสิทธิ์เยียวยา 5,000 บาท อยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องไปลงทะเบียนรับเงินเยียวยา และเงินก็โอนเข้าบัญชีที่นางลัดดา สมบูรณ์ ตามเคยเปิดไว้แล้วเมื่อปี 2558 ที่สาขาห้วยแถลง ตามอัตโนมัตินั้นเอง” ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขาตราด กล่าว

Advertisement

ส่วนนางลัดดา กล่าวทั้งเสียงหัวเราะว่า ตนเองจำไม่ได้ว่าเคยเปิดบัญชีไว้ที่จังหวัดนครราชสีมา แต่ยอมรับว่า เมื่อก่อนเคยทำงานอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะกลับมาทำงานเป็นจังหวัดตราด เป็นผู้ช่วยไต๋เรือประมงนานหลายปีแล้วที่จังหวัดตราด โดยลืมไปว่าเคยเปิดบัญชีธนาคารไว้ที่จังหวัดนครราชสีมา แต่เมื่อรัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือเงิน 5,000 บาท ตนเองจึงให้เพื่อนร่วมงานช่วยลงทะเบียนให้ แต่ปรากฎว่ากลับลงทะเบียนรับสิทธิไม่ได้ แถมยังมีเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว ทำให้ตนเองและญาติพี่น้องต่างตกใจ คิดว่าถูกสวมสิทธิรับเงินเยียว จึงนำหลักฐานทั้งหมด มาขอความชัดเจนกับธนาคารเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา และวันนี้ ทราบเรื่องทุกอย่างแล้ว ว่าไม่มีใครสวมสิทธิตนเอง แต่เป็นเพียงการเข้าใจผิดและความหลงลืมของตัวเอง ซึ่งต้องขอบคุณทางธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาตราดที่ช่วยเหลือในเรื่องนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image