หลากมุมมอง เยียวยา ‘พระสงฆ์’

หลากมุมมอง เยียวยา ‘พระสงฆ์’

ต้องยอมรับว่าสถานการณ์แพร่ระบาด โควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั่วประเทศ ไทยและทั่วโลกไม่เว้นแม้กระทั่งวัดวาอารามและพระ-เณร

ดังนั้น นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงเสนอเยียวยาพระสงฆ์รูปละ 60 บาทต่อวัน เป็นค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ภายในวัด คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1.3 พันล้านบาท โดยคณะรัฐมนตรีรับหลักการไปแล้วนั้น นี่เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนมุมมอง

พระราชอุทัยโสภณ เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี เจ้าอาวาสวัดหนองขุนชาติ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี กล่าวว่า หากมีมาตรการดังกล่าวมาช่วยวัดในช่วงนี้ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะหลังจากเกิดโควิด-19 ระบาด ทุกวัดต่างได้รับผลกระทบไม่น้อยด้วยเช่นกัน ประชาชนเข้าวัดทำบุญน้อยลง ทำให้วัดต้องนำเงินเก็บออกมาใช้จ่ายแทน

Advertisement

ที่วัดหนองขุนชาตินี้ มีพระสงฆ์อยู่ที่วัด 48 รูป หากมีการเยียวยาก็จะนำมาใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะที่วัดทำโรงทานให้ทั้งพระสงฆ์ได้ฉัน พร้อมแจกให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนได้ทานด้วยทุกวัน

ส่วนเงินเยียวยาวันละ 60 บาทต่อรูปนั้น น่าจะเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของทุกวัด หากเป็นวัดใหญ่มีพระสงฆ์จำนวนมาก ก็มีค่าใช้จ่ายที่มากตาม

แต่หากเป็นวัดเล็ก มีพระสงฆ์น้อย ค่าใช้จ่ายก็จะน้อยลงตามไปด้วยเช่นเดียวกัน จึงทำให้จำนวนที่ได้รับแต่ละวัด แม้จะไม่เท่ากัน แต่ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ได้

Advertisement

พระครูสุนทรเจติยารักษ์ หรือครูบาพิณ แห่งวัดพระธาตุดอยคำ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวรัฐบาลจะเยียวยาช่วยเหลือวัด 40,000 แห่ง กว่า 1,300 ล้านบาท มองว่าอาจทำให้พระเดือดร้อนได้ เพราะโลกติฉินนินทา และติดกิเลสมากขึ้น อาตมาเห็นว่าวัดส่วนใหญ่ไม่เดือดร้อน หากเป็นวัดพัฒนา ก็ค่อยเป็นค่อยไป ส่วนวัดป่ามุ่งปฏิบัติธรรม แต่ทั้งหมดอยู่ด้วยศรัทธาประชาชน และผู้ใจบุญทั้งหลาย

แม้ได้รับผลกระทบโควิด ที่มีผู้ทำบุญน้อยลง แต่วัดอยู่ได้เพราะพระสงฆ์ออกบิณฑบาตตามปกติ มีผู้ตักบาตรทำบุญทุกวัน ซึ่งพระที่เป็นเจ้าอาวาสมีเงินประจำตำแหน่ง และเงินช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟอยู่แล้ว หลัง คลายล็อกเฟส 3 มีญาติโยมมาทำบุญอยู่เรื่อยๆ แม้ไม่เท่าเดิม ที่สำคัญมีพุทธศาสนิกชน และศิษยานุศิษย์ ถวายผ้ากฐิน หรือผ้าป่าทุกปี ทางวัดจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะวัดมีพระสงฆ์เพียง 3 รูปเท่านั้น

เท่าที่ทราบวัดส่วนใหญ่ไม่ต้องการเงินเยียวยาดังกล่าว ไม่อยากรบกวนรัฐบาล เพราะมีภาระมากอยู่แล้ว เพราะกู้เงินมาใช้จ่าย แต่เงินดังกล่าวควรช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนโดยตรงมากกว่า โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยติดเตียง หรือนำไปพัฒนาการศึกษาซื้ออุปกรณ์การเรียนออนไลน์แจกนักเรียน เพื่อลดภาระผู้ปกครองดีกว่า เชื่อว่าตรงเป้าหมายและเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด

ด้าน พระอธิการทองสด ธมฺมวชิโร เจ้าอาวาสวัดเนินพยอม ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร กล่าวว่า อาตมาเห็นด้วยกับรัฐบาลที่มีมาตรการเยียวยาให้กับพระทุกวัดทั่วประเทศ เพราะว่าพระทุกวัดนั้นได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาลเช่นกัน แต่อาตมาเองอยากให้รัฐบาลมองไม่ใช่แต่พระที่จะเยียวยา อยากให้มองไปถึงวัดที่ขาดสภาพคล่องในการบริหารจัดการวัด ในช่วงโควิด-19 ระบาด เพราะประชาชนไม่มาทำบุญเนื่องจากกลัวโควิด-19 ประกอบกับรัฐบาลสั่งงดไม่ให้วัดมีการจัดกิจกรรมอะไรต่างๆ ประกอบกับการทำบุญของประชาชนลดลง ทำให้วัดต้องขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินที่จะต้องบริหารจัดการวัด อีกทั้งไม่มีเงินที่จ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าอื่นๆ ซึ่งทางวัดต้องแบกภาระ ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะพระผู้ใหญ่ ที่จะต้องบริหารจัดการวัด ไม่มีเงินจะไปบริหารจัดการภายในวัดของตัวเองที่ดูแลอยู่

ยอมรับว่าฐานะวัด แทบทุกวัดตอนนี้ขาดสภาพคล่อง โดยเฉพาะวัดที่ทุรกันดาร เพราะไม่มีเงิน จะไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และค่าบริหารจัดการอื่นๆ ของวัดด้วย ทุกวันนี้ อาตมาต้องไปยืมเงินลูกศิษย์มาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ จนต้องเป็นหนี้หลายหมื่นบาทเนื่องจากเสียค่าไฟต่อเดือนเกือบ 1 หมื่นบาท

ขณะที่ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ปกติแล้ววัดไพรพัฒนาจะมีประชาชนพากันมาทำบุญกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเสาร์อาทิตย์และวัดหยุดราชการ จะมีประชาชนมากราบไหว้ขอพรหลวงปู่สรวงและทำบุญที่วัดไพรพัฒนากันอย่างคึกคักมาก แต่พอมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางวัดได้รับผล กระทบหนักมาก เนื่องจากไม่มีประชาชนพากันมาทำบุญเหมือนเช่นเคย ในแต่ละวันมีประชาชนมาทำบุญที่วัดไม่ถึง 5 คน อีกทั้งพระเณรที่พากันออกไปบิณฑบาต ก็มีประชาชนทำบุญตักบาตรน้อยมาก เนื่องจากว่าประชาชนพากันหวาดกลัวโรคโควิด-19 เป็นอย่างนี้มานานกว่า 3 เดือนแล้ว ขณะที่ทางวัดมีค่าใช้จ่ายประจำคือค่าไฟ ค่าน้ำ และค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมแล้วเดือนละประมาณ 90,000 บาท ทำให้ทางวัดได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก และทางวัดยังต้องจัดหาหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และจัดหาอาหารถวายพระเณรทุกวัด ทำให้ได้รับความเดือดร้อนมาก

ส่วนคนงานที่มาช่วยงานที่วัดจากเดิมที่มีประมาณ 100 คน ก็ได้ให้หยุดพักชั่วคราว เพราะว่าทางวัดไม่มีรายได้อะไรที่จะไปดูแลคนงานทั้งหมดได้ เหลือคนงานช่วยทำงานวัดประมาณ 5 คนเท่านั้น

ด้าน เจ้าคุณพระศรีญาณวิเทศ (พิมล ญาณวิมโล คำเครื่อง ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำมิชิแกน เมืองสเตอลิงโฮต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาจำวัดอยู่ที่วัดป่าพิมลมังคลาราม บ้านโนนแดงโนนม่วง ต.ทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า อาตมาภาพเดินทางมาจากวัดปากน้ำมิชิแกนมาจำวัดอยู่ที่วัดแห่งนี้นานกว่า 4 เดือนแล้ว ปรากฏว่าวัดแห่งนี้มีพระอยู่ 5 รูป ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นอย่างมาก พระสงฆ์ไม่มีกิจนิมนต์ที่ใดเลย ทำให้ไม่มีรายได้มาเข้าวัด

ขณะที่ทางวัดป่าพิมลมังคลาราม บ้านโนนแดงโนนม่วง จะมีค่าใช้จ่ายประจำคือค่าไฟและค่าใช้จ่ายต่างๆ เดือนละประมาณ 3,000-5,000 บาท ทำให้วัดแห่งนี้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image