ญาติ น.ศ.ไทยในอียิปต์ รัฐบาลช่วย 4,000 คนไทยกลับประเทศ เผยติดโควิด 38 คนได้แค่ยาพาราเซตามอล
ญาตินักศึกษาไทยในอียิปต์ ยื่นขอรัฐบาลให้ช่วยพาคนไทย 4,000 คนกลับประเทศ เผยติดเชื้อโควิด 38 คนได้แค่ยาพาราเซตามอล ทางแพทย์ของเขาแนะนำว่าให้กลับไปรักษาตัวที่ประเทศไทยจะดีที่สุด เพราะแพทย์ของประเทศไทยมีความสามารถในการรักษา
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 มิถุนายน ที่มัสยิดท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.นนทบุรี ญาติและผู้ปกครองคนไทยที่อยู่ในประเทศอียิปต์ เดินทางเข้าพบนายปรีดา เชื้อผู้ดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และที่ปรึกษานายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เพื่อยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือและส่งหนังสือไปยังรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ให้นำคนไทยมุสลิมและไทยพุทธ ที่ยังติดค้างอยู่ในประเทศอียิปต์ได้เดินทางกลับประเทศ
นายปรีดากล่าวว่า เท่าที่มีการตรวจสอบพบว่าขณะนี้ยังมีคนไทยที่เป็นคนไทยมุสลิม และคนไทยพุทธรวมทั้งนักศึกษาและบุคคลทั่วไป ยังคงติดค้างที่ประเทศอียิปต์กว่า 4,000 คน ตอนนี้ได้รับแจ้งว่ามีคนไทยผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 38 ราย จากการสอบถามผู้ที่ตกค้างอยู่ในขณะนี้แจ้งว่า คนไทยที่ติดเชื้อเข้าไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลในประเทศอียิปต์ ก็จะได้รับการดูแลรักษาแค่ให้ยาพาราเซตามอล มากินเท่านั้นและให้กลับบ้านไปรักษาตัว โดยทางแพทย์ของเขาแนะนำว่าให้กลับไปรักษาตัวที่ประเทศไทยจะดีที่สุด เพราะแพทย์ของประเทศไทยมีความสามารถในการรักษา ทำให้คนไทยที่ตกค้างพยายามจะเดินทางกลับประเทศไทย แต่ติดตรงที่เปิดเที่ยวบินให้เดินทางกลับได้แค่เที่ยวละ 200 คนต่อเดือนเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนี้จะต้องใช้เวลานานกว่า 8 เดือนถึงจะเดินทางกลับได้หมด จึงอยากขอให้ทางรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือให้การเพิ่มเที่ยวบิน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ญาติและผู้ปกครอง จะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ขอให้ได้เดินทางกลับบ้านได้ก็พอแล้ว หลังจากนี้จะนำหนังสือไปยื่นผ่านไปยังสำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อประสานไปยังรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้ช่วยเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
