ตำรวจประจวบฯสั่งล่ามือยิงช้างป่ากุยบุรี

ตำรวจประจวบฯสั่งล่ามือยิงช้างป่ากุยบุรี ชี้เป็นความรุนแรงที่มีผลกระทบหลายด้าน

ยิงช้าง – ตำรวจประจวบฯสั่งล่ามือยิงช้างป่ากุยบุรี ชี้เป็นความรุนแรงที่มีผลกระทบหลายด้าน ปัจจุบันมีช้างป่าออกหากินมากกว่า 300 ตัว ขณะที่อุทยานฯได้ประกาศพื้นที่เพื่อปิดการท่องเที่ยวนานกว่า 2 เดือน

จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบซากช้างป่าเพศผู้ไม่มีงา อายุ 7 ปี สภาพเริ่มขึ้นอืดจมอยู่ในสระน้ำบ่อที่ 5 หุบมะกรูด ภายในพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หมู่ 7 บ้านรวมไทย ต.หาดขาม อ.กุยบุรี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ก่อนนำซากช้างขึ้นมาใช้เครื่องสแกนหาเศษโลหะพบหัวกระสุนปืนลูกซอง 4 หัว ติดที่บริเวณใกล้แนวสันหลังด้านโคนหางจำนวน 3 รู ลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร และที่บริเวณหลังโคนขาหน้าข้างขวาจำนวน 1 รู ลึก 20 ซม.ถึงปอด จึงผ่าเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นสัตวแพทย์ทำการผ่าซากพบว่าช้างมีปัญหาน้ำท่วมปอด ก่อนตัดชิ้นเนื้อช้างส่งไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุการตาย โดนเจ้าหน้าที่อุทยานฯได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อหาตัวคนยิงช้าง

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ ผกก.สภ.บ้านยางชุม ท้องที่ที่เกิดเหตุเร่งรัดจับกุมตัวผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิงช้าง ซึ่งคาดว่าน่าจะเข้าไปกินพืชไร่ที่ปลูกไว้ใกล้แนวเขตที่ดินโครงการตามพระราชดำริ หลังจากใช้วิธีการไล่ด้วยการยิงลูกโป้งเพื่อให้เสียงดังแต่ไม่ได้ผล เนื่องจากเป็นวิธีเก่า ซึ่งช้างป่าที่ตายในพื้นที่ อ.สามร้อยยอดก็มีอายุใกล้เคียงกับตัวล่าสุดและถูกยิงด้วยอาวุธปืนประเภทเดียวกัน สำหรับการป้องกันปัญหาช้างป่าตายผิดธรรมชาติ โดยเฉพาะการยิงช้างเป็นเรื่องการใช้ความรุนแรงที่อาจจะมีผลกระทบหลายด้าน ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการบูรณาการร่วมมือกันหลายฝ่าย โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เพราะปัจจุบันมีช้างป่าออกหากินมากกว่า 300 ตัว ขณะที่อุทยานฯได้ประกาศพื้นที่เพื่อปิดการท่องเที่ยวนานกว่า 2 เดือน

พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.ยางชุม อ.กุยบุรี กล่าวว่า จากการตรวจกระสุนปืนลูกซองที่ผ่าจากซากช้างเป็นกระสุนปืนเบอร์ 12 ขนาด 9 ที่สามารถล้มช้างได้ ไม่ใช่ลูกปรายสำหรับใช้ยิงขู่ หลังตรวจบริเวณรอบสระไม่พบร่องรอยการต่อสู้กันของช้างป่าหรือร่องรอยบาดแผลถูกสัตว์อื่นทำร้าย ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงตรวจสอบพื้นที่การครอบครองอาวุธปืนลูกซองของชาวบ้าน ตรวจสอบย้อนหลัง 3 ปี กรณีชาวบ้านเคยถูกจับในคดีอาวุธปืนลูกซองเพื่อเข้าตรวจสอบ พร้อมประสานขอภาพกล้องวงจรปิดรอบอุทยานฯว่ามีบุคคลใดเข้าออกในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาตามระยะเวลาที่สัตวแพทย์ระบุว่าช้างถูกยิง แต่ต้องติดตามว่าช้างไปหากินในพื้นที่ใดบ้าง เนื่องจากอุทยานมีพื้นที่กว้าง 4 อำเภอ แต่คาดว่าได้ตัวคนยิงช้างแน่นอน

Advertisement

นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร ประธานมูลนิธิช้างป่าบ้านพ่อ กล่าวว่า การตายของช้างป่า 3 ตัวในรอบ 15 วัน เป็นสิ่งที่ผิดปกติ อาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า หลังจากช้างออกมากัดกินพืชไร่ในพื้นที่รอบแนวเขตอุทยานฯ หรือในพื้นที่ป่าอาจจะมีปัญหาความแห้งแล้ง แหล่งน้ำไม่เพียงพอ ที่สำคัญช้างป่าถูกยิงด้วยปืนลูกซองต่อเนื่อง 2 ตัว เจ้าหน้าที่จะหาหลักฐานได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากกระสุนปืนที่พบในซากช้างไม่มีเกลียวจากลำกล้องจึงไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ายิงมาจากปืนกระบอกใด สำหรับซากช้างตัวล่าสุดเบื้องต้นคาดว่าก่อนหน้านั้นช้างถูกยิงได้รับบาดเจ็บนานนับเดือน จนแผลเริ่มอักเสบ ก่อนเดินซมซานมากินน้ำใกล้สระน้ำและพลัดตกลงไป โดยพยายามตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งจนหมดแรงก่อนจมน้ำตาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image