รวบนักลวงโลกอ้างทำงานค่ายมือถือ ขอรหัสโอทีพีเข้าระบบล้วงเงินในบัญชีธนาคารเภสัชกรหญิงเมืองโคราช สูญกว่า 4 แสนบาท
วันที่ 17 มิ.ย. ที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภาค 3 พร้อม พล.ต.ต.ปวริศ บุญสุทธิ ผบก.บก.สส.ภาค 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมประกอบด้วย ชุดสืบสวนภาค 3, ภาค 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี และ สภ.คง จ.นครราชสีมา ร่วมแถลงผลการจับกุมนายกฤติชัย พันพลับ อายุ 29 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 95/51 ถนนทรงพล ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 30/2563 ลงวันที่ 12 มิย. 2563 ความผิดฐาน “ลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น เข้าถึงโดยมิชอบ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สาหรับตน ”
พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค. มีผู้ชายอ้างเป็นพนักงานสังกัดบริษัทค่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ชื่อดังติดต่อเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของนางอารีย์ มูลมณี อายุ 49 ปี เภสัชกรโรงพยาบาลคง อ.คง จ.นครราชสีมา แจ้งมีผู้ใช้หมายเลขโทรศัพท์เดียวกันกับผู้เสียหายซ้ำกัน 2 คน จะแก้ไขให้ใหม่เป็นหมายเลขที่ผู้เสียหายใช้เพียงคนเดียว ผู้ต้องหาสามารถบอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนได้ตรงทุกตัว ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อคล้อยตามแต่โดยดี จากนั้นชายคนดังกล่าว แจ้งค่ายโทรศัพท์มือถือได้ส่งรหัสโอทีพี (OTP : One Time Password หมายถึงรหัสที่ใช้เพียงครั้งเดียวในการเข้าสู่ระบบ) เข้ามาในกล่องข้อความ ระบุให้ผู้เสียหายบอกรหัส OTP เพื่อดำเนินการแก้ไขระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ เหยื่อได้ตรวจสอบระบบบัญชีธนาคารในมือถือของตน ปรากฏเข้ารหัสผ่านไม่ได้ จึงติดต่อกับธนาคารเจ้าของบัญชี จึบทราบเงินในบัญชีถูกโอน 3 รอบในวันเดียว รวมเป็นเงิน 431,300 บาท เหลือในบัญชี 70 บาท เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบพบถูกโอนไปบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชีระบุผู้ชายคนหนึ่ง จึงมั่นใจถูกแฮกระบบบัญชีธนาคารและเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.คง จ.นครราชสีมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนภาค 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมสืบสวนจนทราบว่า นายกฤติชัยเป็นผู้ใช้บัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนเงินจากผู้เสียหายและถอนเงินสดออกจากบัญชีดังกล่าว เจ้าหน้าที่เชื่อมีส่วนร่วมกระทำผิดจึงรวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน ขออนุมัติออกหมายและเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา สามารถจับกุมตัวนายกฤติชัได้ขณะกบดานที่บ้านเลขที่ 96/2 ถ.รถไฟ 4 ต.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นนายกฤติชัยให้การภาคเสธ อ้างไม่ใช่คนวางแผนสั่งการ โดยซื้อสมุดบัญชีธนาคารชื่อบัญชี “นายสุทธิพร อยู่ดี” จากเครือข่ายในราคา 5 พันบาท เพื่อใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งครั้งนี้ได้ค่าตอบแทน 31,000 บาท ซึ่งเป็นเงินส่วนที่เหลือจากการโอนเงินจำนวน 4 แสนบาท ไปให้นายเอ นามสมมุติ เจ้าหน้าที่เชื่อยังมีผู้ร่วมเครือข่ายเพิ่มเติมและร่วมกันกระทำผิดในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากขั้นตอนการหลอกลวงมีความสลับซับซ้อน ขณะนี้ทราบข้อมูลเบื้องต้นอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมนำไปสู่การติดตามจับกุมต่อไป
