“วินมอ’ไซค์” ร้องทนายถูกนายกสมาคม จยย.รับจ้างโกงเงินสหกรณ์กว่า 10 ล.

“หนุ่มขับวินมอ’ไซค์” รวมกลุ่มร้องทนายความ หลังถูกนายกสมาคม จยย.รับจ้าง โกงเงินสหกรณ์กว่า 10 ล้าน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 มิถุนายน ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายบุญส่วน วงศ์สุรินทร์ อายุ 45 ปี วินรถจักรยานยนต์รับจ้างซอยอ่อนนุช และนายสุข บ้านคุ้ม อายุ 55 ปี วินรถจักรยานยนต์รับจ้างแยกเพลินจิต พร้อมเพื่อนวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ช่วยเหลือหลังถูกนายกสมาคมผู้ขับวินจักรยานยนตร์รับจ้างแห่งประเทศไทย และกองทุนกลุ่มออมทรัพย์ สมาคมผู้ขับวินจักรยานยนตร์รับจ้างแห่งประเทศไทย(สจท.)หลอกให้ฝากเงินออม และให้กู้เงินจากธนาคารมาให้กับกองทุนแล้วจะให้ดอกเบี้ยในราคาสูง แต่ทางกองทุนไม่นำเงินไปจ่ายหนี้ธนาคาร จนถูกฟ้องดำเนินคดีจนจะถูกยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้หากิน

นายบุญส่วน กล่าวว่า ตนขับวินรับจ้างมากว่า 10 ปี จนปี 2559 ได้มีนายเฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับวินจักรยานยนตร์รับจ้างแห่งประเทศไทย เข้ามาพูดชักชวนให้ตนและเพื่อนร่วมวิน เข้าเป็นสมาชิกกองทุนกลุ่มออมทรัพย์ สจท. โดยหากใครฝากเงินกลับกองทุนเดือนละ 1,000 บาทจะได้สิทธิ์กู้ยืมเงินกลับกองทุน 100,000 บาท ตนจึงฝากเงินไปเดือนละ 2,000 บาททุกเดือนจนมียอดเงินสะสมในบัญชี 74,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่กองทุนได้ติดต่อให้ตนไปกู้เงินที่ธนาคารออมสินให้จำนวน 200,000 บาท ซึ่งหากทางธนาคารอนุมัติแล้ว ให้ตนนำเงินมอบให้กับทางกองทุน โดยอ้างว่าจะนำเงินดังกล่าวไปปล่อยกู้ให้กับคนขับวินคนอื่น ที่ทำเรื่องกู้กับธนาคารไม่ผ่าน แต่ตนไม่ยอมให้เงิน เพราะจะนำเงินที่กู้ได้ไปซื้อที่ปลูกบ้านที่ต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่กองทุนจึงบอกตนว่า สำหรับเงินที่กู้จากธนาคารเวลาชำระค่างวดคืนนั้นให้ตนจ่ายผ่านกองทุนทั้งหมดซึ่งตนก็ไม่ได้เฉลียวใจอะไร จึงผ่อนชำระค่างวดกับกองทุนดังกล่าวมาจนครบ ซึ่งทางกองทุนก็ออกใบเสร็จค่าที่ตนผ่อนชำระมาให้ทุกเดือนจนครบตามจำนวนเงินที่กู้มา

นายบุญส่วน กล่าวว่า หลังจากนั้นตนก็ขับวินรับจ้างตามปกติจนเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 61 มีหมายศาลมาติดที่บ้านว่าตนผิดสัญญากู้ยืมและผิดสัญญาค้ำประกัน โดยธนาคารออมสินเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง จึงสอบถามไปทางธนาคาร ก็พบว่าเงินที่ตนชำระค่างวดผ่านกองทุนไปนั้น ทางกองทุนไม่ได้นำไปจ่ายกับทางธนาคารเลย เมื่อไปสอบถามที่กองทุนและนายกสมาคม ก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไรให้ไปขึ้นศาลตามหมายเรียก เดี๋ยวกองทุนจะจัดการเองทั้งหมด เพียงแค่ให้ตนเซ็นชื่อรับประนอมหนี้ไปก่อน หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป จนเมื่อวันที่11 ตุลาคม 62 มีหมายเรียกจากศาลมาอีกเรื่องตนผิดชำระหนี้กรณีเดิม จึงได้ไปสอบถามนายกสมาคมก็ได้รับคำตอบว่า กองทุนไม่มีเงินจ่ายให้ ให้รับผิดชอบตัวเองไป หรือไม่ก็ไปแจ้งความ ตนจึงสอบถามกลับเพื่อนวินรถจยย.รับจ้างทั้งที่วินของตนและวินอื่นๆก็พบว่า มีคนถูกหลอกเหมือนตนกว่า 40 ราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท จึงเดินทางมาร้องเรียนกับทนายรณรงค์ให้ช่วยเหลือ

นายสุข บ้านคุ้ม อายุ 55 ปี กล่าวว่าตนฝากเงินกับกองทุนมาตั้งแต่ปี 57 โดยได้รับการชักชวนจากนายกสมาคมว่าจะได้เงินปันผลดี ฝากเงินกับกองทุนมาตลอดจนมีเงินสะสมในบัญชี 62,000 บาท ช่วงแรกก็ได้ดอกเบี้ยปีละ 1000 บาท แต่หลังจากนั้นมาดอกเบี้ยก็เหลือแค่ 100-200 ต่อปี ตนจึงตัดสินใจไปเบิกเงินที่กองทุนดังกล่าว แต่ก็ได้รับคำตอบว่าที่กองทุนยังไม่มีเงินให้ถอนในช่วงนี้ แต่ถ้าอยากได้เงินให้ตนช่วยกู้เงินกับทางธนาคารให้ก่อน และทางกองทุนจะรับผิดชอบค่าผ่อนชำระกับทางธนาคารเอง จึงยอมไปกู้เงินจากธนาคารมาให้เพราะเห็นว่านายกสมาคมเป็นคนรับรองและก็อยากได้เงินที่ฝากไว้คืนด้วย แต่หลังจากกู้มาแล้วก็เหมือนเพื่อนวินคนอื่นที่โดนหลอกคือได้รับหมายเรียกจากศาล และจะถูกฟ้องยึดทรัพย์จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเขามาช่วยเหลือพวกตนด้วยเพราะถ้าหากรถจยย.ถูกยึดไปตนจะทำมาหากินอะไรเลี้ยงครอบครัว

Advertisement

ด้านนายรณรงค์ กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องของสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย ไปทำการออมเงินกับนายกสมาคมพอถึงเวลาถอนกลับถอนเงินออกมาไม่ได้บ้าง เป็นหนี้บ้าง ฝากเงินให้ไปจ่ายกับแบงค์ออมสินแล้วไม่ยอมนำไปจ่ายบ้าง คือทุกอย่างต้องมีความชัดเจน ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยเกี่ยวกับเรื่องสหกรณ์การออมเงิน วิธีการทำจะคล้ายๆสหกรณ์แต่ไม่ได้ตั้งแบบถูกกฎหมาย กรณีนี้เป็นเรื่องการจัดตั้งกลุ่มออมเงินขึ้นมาเอง ซึ่งตนก็จะต้องตรวจสอบและต้องทำหนังสือสอบถามไปยังสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ทำไมสมาชิกถึงไม่ได้รับเงิน อีกทั้งยังต้องมารับภาระหนี้อีกคนละประมาณ 1-2 เเสนบาท ซึ่งยอดหนี้สินนี้ไม่ใช่น้อยๆสำหรับคนที่ประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง อีกทั้งยังไม่ได้มีการไปแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด ซึ่งก็ต้องมาตรวจสอบดูอีกครั้งว่าเรื่องดังกล่าวหมดอายุความหรือยังสามารถดำเนินคดีทางอาญาได้หรือไม่ สุดท้ายก็อยากจะฝากไปถึงสมาคมว่า อยากให้เข้ามาเคลียร์เรื่องนี้ให้จบจะได้ไม่ต้องเป็นคดีความต่อกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image