ตำรวจนนท์ล้างบาง 72 เด็กแว้น แก๊งซิ่งป่วนเมือง หลังรวมกลุ่มแข่งรถกลางดึก

ล้างบางแก๊งซิ่ง
ล้างบางแก๊งซิ่ง

ตำรวจนนท์ล้างบาง 72 เด็กแว้น แก๊งซิ่งป่วนเมือง หลังรวมกลุ่มแข่งรถกลางดึก

ล้างบางแก๊งซิ่ง – เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นำโดย พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก. พ.ต.อ.ถาวร ดุลยวิทย์ รอง ผบก. ร่วมกันเเถลงผลการกวดขันและจับกุมการแข่งรถในทาง ในพื้นที่ของตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้บังคับบัญชาของสำนักงานแห่งชาติ ได้มีความห่วงใยในเรื่องของกลุ่มเด็กแว้นที่ออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน จึงต้องการให้ปัญหานี้หมดไปโดยเร็ว

ขณะที่ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. หัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง (ศปข.ตร) และ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบชภ.1 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วย ให้ความสำคัญและใส่ใจกับการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีจึงเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ทั้งหมด 11 สถานี วางแผนจับกุมเด็กแว้นที่รวมกลุ่มกันแข่งรถในทาง คืนวันที่ 26-28 มิถุนายน 2563 บริเวณถนนกาญจนาภิเษก และถนนสาย 345 โดยสามารถจับกุมผู้ขับขี่ ผู้ซ้อนท้าย และผู้สนับสนุน เป็นชายทั้งหมดจำนวน 70 ราย อายุตั้งแต่ 19-28 ปี อีกทั้งยังมีเยาวชนชายอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 2 ราย ตรวจยึดรถจักรยานยนต์จำนวน 72 คัน ท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐาน จำนวน 27 ท่อ โดยแยกข้อกล่าวหาทั้งหมด 8 ข้อหา ประกอบด้วย

1.เปลี่ยนแปลงตัวรถ ผิดไปจากรายงานที่จดทะเบียนไว้และใช้รถนั้น (ดัดแปลงสภาพ) จำนวน 4 ราย
2.ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตจำนวน 8 ราย 3.ขับรถย้อนศร จำนวน 7 ราย 4.ขับรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 32 ราย 5.ท่อดัง จำนวน 3 ราย 6.อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ จำนวน 18 ราย และจากการตรวจสอบร้านจำหน่ายอะไหล่รถและร้านซ่อมรถจำนวน 55 ร้าน พบผู้กระทำผิดกฎหมายจำนวน 1 ร้าน จึงแจ้งข้อกล่าวหา ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประเภทกิจการเกี่ยวกับรถยนต์ เครื่องจักร หรือเครื่องกลโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 หมวด 7 จำนวน 1 คน

พ.ต.อ.โชติวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะทำการขยายผลถึงที่มาที่ไป ของรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดทุกคันว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ แต่งรถมาจากที่ไหน และแอดมินเพจคือใคร โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนกรณีของผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนชายทั้ง 2 ราย จะทำการเรียกผู้ปกครองมาสอบปากคำ หากพบว่าให้การสนับสนุนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image