ลูกเขยวัย 17 แค้นพ่อตาไม่ให้พบภรรยา คว้ามีดฟันดับคาที่ ด้านครอบครัวยันไม่เคยกีดกัน
จากกรณีที่เกิดเหตุลูกเขย นายบี (นามสมมุติ) เยาวชนอายุ 17 ปี ได้ทำร้าย นายไพรินทร์ พูลพุฒิ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นพ่อตา ขณะที่นอนอยู่ที่กระท่อมนา จนเสียชีวิตไปแล้วนั้น และเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งนายบี อ้างว่า เหตุที่ลงมือทำร้ายพ่อตาด้วยการใช้มีดตัดอ้อยเข้าไปถลกมุ้งนอน ที่กระท่อมนากลางดึกจนเสียชีวิตนั้น เพราะแค้นใจ ที่พ่อตากีดกันไล่ออกจากบ้าน ไม่ให้มาอยู่กับภรรยา
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปหมู่บ้านหนองปิง ต.โคกม่วง ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตาย ได้พบกับกลุ่มญาติพี่น้องและชาวบ้านมาร่วมอยู่ที่งานศพ ประมาณ 20 คน และได้พบกับ นางดอกจันทร์ พูนพุฒิ อายุ 38 ปี ภรรยาของผู้ตาย และ น.ส.เนาวรัตน์ พูนพุฒิ อายุ 18 ปี ลูกสาวของผู้ตาย ซึ่งทั้งสองก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางดอกจันทร์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ลูกเขยบอกว่าเหตุที่ทำร้ายพ่อตาจนเสียชีวิต เพราะพ่อตาแม่ยายไล่ออกจากบ้านนั้น ไม่เป็นอย่างที่ลูกเขยกล่าวอ้าง คนที่เป็นพ่อแม่ใครจะไล่ลูกให้หนีออกจากบ้านอย่างไร แต่ตัวลูกเขยนั้น ได้หนีออกจากบ้านไปเอง ไม่เคยติดต่อกลับมาบ้านแล้ว เป็นเวลา 4 เดือน ในคืนก่อนผู้ตายจะเสียชีวิต ตนก็อยู่กับสามี ถึงเวลา 22.00 น. จึงกลับมาบ้าน ตอนเช้าก็ออกไปที่กระท่อมนา เห็นสามีนอนเสียชีวิตอยู่จึงรีบเข้ามาแจ้งให้ญาติพี่น้องและผู้ใหญ่บ้านทราบ
นางดอกจันทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ตายไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร แล้วก็ไม่เคยคิดว่าเป็นลูกเขยที่คับแค้น คิดว่าพ่อกับแม่ บังคับว่าต้องให้หนีจากลูกเมีย คิดว่าพ่อกับแม่ไล่หนีกลับบ้าน ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย ใครจะไปไล่ลูกหนี ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่อยากให้ลูกหนีจากกัน
“พ่อบอกพ่อสอนเพราะอยากให้ได้ดี เพราะอยู่นี่ไม่ใครแล้ว มีลูกเพียงคนเดียว ไม่เคยไล่ ลูกเขยไปเองของเขา ไปอยู่บ้านประมาณ 4 เดือน ที่ไม่ได้ติดต่อกลับมาบ้านหาภรรยาอีก ทั้งๆที่รู้ว่า ภรรยาท้อง ส่วนการลงโทษนั้น อยากให้ประหารชีวิต เพราะถ้าออกมาก็อาจจะทำอีก ในเมื่อคนเคยฆ่าคนตายแล้ว ซึ่งมาอยู่นี่เขาเป็นคนนิ่งๆไม่ยุ่งกับใคร ไม่คิดว่าเขาจะเก็บเอาความรู้สึกเอาไว้ และทำแบบนี้ ก่อนที่สามีจะเสียชีวิตก็ไม่ได้มีอะไรเป็นลางบอกเหตุเลย ซึ่งก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากและก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ในเมื่อขาดสามีไป เหลือเพียงลูกสาวคนเดียว” นางดอกจันทร์ กล่าว
ส่วน น.ส.เนาวรัตน์ กล่าวว่า พูดอะไรไม่ออก รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก่อนหน้านั้น หลายเดือนมาแล้ว นายบีเคยพูดว่า จะทำทุกวิถีทางที่จะให้ได้อยู่ด้วยกัน แต่ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ ก่อนที่จะหนีหายไปแรกๆ ก็ติดต่อกันบ้าง แต่มาระยะหลังก็ไม่ได้ติดต่อกัน ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ออก
สำหรับการ ฌาปนกิจศพของ นายไพรรินทร์ พูนพุฒนั้น จะทำการฌาปนกิจตามประเพณีของหมู่บ้าน ในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ ที่วัดป่าพรหมาราม ในหมู่บ้านหนองปิง