เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นายวีระยุท ทุมงาม อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 31 หมู่ 5 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมนายมานพ แสนเจ๊ก อายุ 39 ปี อยู่เลขที่ 64 หมู่ 5 ต.ลำนางรอง ทั้งสองถูกนายบรรจง แกล้วกล้า อายุ 47 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 13 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง เอาปืนไล่ยิงหมายเอาชีวิต เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อมาขอคัดค้านการประกันตัวผู้ช่วยฯหลังถูกตำรวจตั้งขอหาพยายามฆ่าและพกพาอาวุธปืน เพราะเกรงจะออกมาก่อเหตุตามคำขู่ก่อนหน้านี้
โดยนายมานพ เล่าว่า ตนเองไม่ใช่เป็นคนในเครือญาติและไม่ได้ไปเกี่ยวข้องใดๆกับเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวนี้ แต่ได้ไปทำงานกับพี่ชายครอบครัวของนายวีระยุท แล้วกลับมาบ้าน ซึ่งคาดว่า ผู้ช่วยฯอาจจะคิดว่าตนเอาเรื่องราวกลับมาเผย วันเกิดเหตุยอมรับว่าเกือบเอาตัวไม่รอด ที่ถูกผู้ช่วยฯไล่เอาปืนยิง จึงอยากจะขอคัดค้านการประกัน ถ้าปล่อยออกมาอีกมีโอกาสที่ผู้ช่วยจะมาก่อเหตุได้สูง
ด้าน น.ส.ปราณี ทุมงาม อายุ 44 ปี พี่สาวนางวีระยุท ได้ออกมาระบุว่า เหตุทั้งหมดเกิดจากพี่สะใภ้ คือภรรยาของพี่ชาย ไปมีความสัมพันธ์กับผู้ช่วยฯซึ่งแต่งงานกับพี่สาวของตน เท่ากับผู้ช่วยฯมาเป็นเขยบ้านหลังนี้ แต่ภรรยาผู้ช่วยฯคือพี่สาวของตนไปทำงานต่างประเทศ
แล้วผู้ช่วยฯได้แอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาของพี่ชายคนโต เพราะพี่ชายไม่อยู่บ้านไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ นานๆจะกลับบ้านครั้งหนึ่ง ความสัมพันธ์ของทั้งสอง ครอบครัวและชาวบ้านต่างรู้กันดี จนทั้งสองอยากจะอยู่กันอย่างเปิดเผย จึงปรึกษาพี่ ก่อนจะเดินทางหย่าร้างกัน โดยหนีสินเงินกองทุนหมู่บ้าน ต่างคนต่างใช้ ส่วนหนี้สิน ธกส.100,000 บาท พี่ชายจะเป็นคนรับผิดชอบ จึงยอมหย่าร้างกัน
วันถัดมาผู้ช่วยฯและพี่สะใภ้ ได้เอาคนมารื้อบ้าน น้องชายคือนายวีระยุท ได้เข้าไปห้าม ว่าบ้านเป็นชื่อของพ่อ ทำให้ผู้ช่วยฯต้องยกเลิกการรื้อบ้าน ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ผู้ช่วยฯเอาปืนไล่ยิง ตาที่ผู้ช่วยฯประกาศจะฆ่าล้างโคตรก่อนหน้านี้
