ลูกจ้างแอบถ่ายคลิปร้องศูนย์ดำรงธรรม ด้านผู้บังคับบัญชาตั้งคณะกรรมการสอบ ลั่นหากผิดจริง ไม่เอาไว้แน่
ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานวันที่ 2 กรกฎาคม จากกรณีที่ที่มีคลิปว่า นายพศวัต สุวรรณกมลาศ ผอ.ส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี ที่เรียกเก็บเงินเดือนจากลูกจ้างทีโออาร์ รายละ 1,000 – 3 ,000 บาท แล้วแต่ฐานเงินเดือน
ซึ่งหากลูกจ้างคนไหนที่ไม่ให้ ทางผอ.ก็จะไม่จ้างงานต่อ ซึ่งผู้ที่แอบถ่ายคลิปในครั้งนี้ เป็นลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากไม่พอใจกับพฤติกรรมของผอ.ท่านนี้ และเป็นลูกจ้างที่ทำงานอยู่ที่นี้มากว่า 12 ปีแล้ว
ล่าสุดในวันนี้ วันที่ 2 ก.ค.63 เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.ฮามีด๊ะ มูสา (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกให้ออกและเป็นผู้ถ่ายคลิป ได้เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปัตตานี เพื่อยื่นหนังสือ และ แฮนดีไดร์ บันทึกคลิปแอบถ่าย มอบให้กับ นายพงศธร รัตนประพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปัตตานี เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมในกรณีที่ตนเองถูกเลิกจ้างโดยบังคับให้เซ็นใบลาออก เนื่องจากไม่พอใจกับการที่ผอ.มีความประพฤติเรียกเก็บเงินจากเงินเดือนทุกเดือน เลยส่งผลให้ตนเดือดร้อนไม่มีรายได้แต่มีภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องครอบครัว ทำให้บางเดือนไม่มีเงินจุนเจือครอบครัว ซึ่งในการเรียกร้องในครั้งนี้ เพื่อให้ชดใช้รายได้ที่เสียไปและเยียวยาโดยการให้เข้าทำงานที่เดิม หรือหน่วยงานอื่นเพื่อที่จะมีรายได้เลี้ยงครอบครัวต่อไป
ด้านนายพงศธร รัตนประพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า โดยในชั้นต้น ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย แต่ถ้ามีข้าราชการถูกร้องเรียนในพื้นที่ โดยอำนาจของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ตามระเบียบราชการแผ่นดิน ท่านได้สั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อข้อเท็จจริงจะปรากฏอย่างไร ก็จะให้ความเป็นธรรมทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง โดยการตั้งคณะกรรมการชั้นผู้ใหญ่ โดยมีตำแหน่งไม่ต่ำกว่า ผู้ถูกร้อง และจะดำเนินการสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง ทุกถ้อยคำ โดยมีการสืบพยานกันอีกที
น.ส.ฮามีด๊ะ มูสา (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกให้ออกและเป็นผู้ถ่ายคลิป เปิดเผยว่า วันนี้มายืนหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรม ช่วยเหลือติดตามในเรื่องนี้ เพื่อความเป็นธรรมกับตัวเราด้วย และคนอื่นๆ ซึ่งมีหลายคนที่ได้รับผลกระทบแบบเดียวกัน และรอเวลาที่จะมาเปิดโปงพฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งตอนนี้ก็กังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะว่า คู่กรณีเป็นถึง ผอ. และมีอำนาจ เป็นไปได้ก็อยากให้อยู่ที่นี้ ให้ออกนอกพื้นที่ไปก่อน
ในขณะที่ ด้านนายณรงค์พล หมึกทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ นายพศวัต สุวรรณกมลาศ ผอ.ส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี ที่ถูกแบถ่ายคลิป เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้เห็นคลิปแล้ว แต่ไม่ทั้งหมด ก็เห็นตามที่เป็นข่าว ก็พอจับใจความได้ว่าเกิดเรื่องที่ไม่ชอบมาพากล ซึ่งจะนำไปสู่เรื่องที่ไม่เกิดความโปร่งใส เกิดความเสียหายในหน่วยงานและองค์กร
ซึ่งท่านอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้กำชับในเรื่องของความโปร่งใส ความเป็นธรรม ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นสำคัญ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น เมื่อวานตนเองรับสาย เป็นจำนวนมาก พูดกันตรงๆก็คือต้องเสี่ยงอันตรายเสียบ สายแบตเตอรี่ไว้ตลอดเป็นข่าวที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในองค์กรของรัฐ ซึ่งผู้บังคับบัญชากำกับดูแลอย่างชัดเจนอย่างนี้ ตนได้ทำการตรวจสอบขั้นตอน ในช่วงที่เกิดเรื่องราวตามคลิปว่าเมื่อ 9 เดือนที่แล้ว เกิดอะไรขึ้น
ซึ่งจากการตรวจสอบในเรื่องของการเบิกจ่าย เป็นการเบิกจ่าย ครบถ้วนถูกต้องตามระเบียบระบบของราชการ การโอนเงินเข้าบัญชีของลูกจ้างตามทีโออาร์ทุกคน ได้ดำเนินการครบถ้วนถูกต้อง แต่หลังจากเงินที่เข้าบัญชีไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นมา ตนเอง ในฐานะผอ.สำนัก ไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียน ไม่ได้รับเรื่อง แจ้งมาจากผู้ใต้บังคับบัญชา พนักงานจ้างเหมาว่า มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น อาจจะเป็นความบกพร่องของตน ไม่ได้ลงไปถึงขนาดนั้น
แต่ด้วยภาระหน้าที่ ก็บอกตรงๆว่า ก็อาจจะไม่ได้ลงลึกจนไปถึงรายบุคคล ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นพนักงานจ้างเหมา เพราะได้ตรวจสอบตามระบบแล้วว่า เงินได้โอนเข้าบัญชีตามระยะเวลา โดยเฉพาะท่านอธิบดีกรมอุทยาน ท่านบอกว่า เงินค่าจ้างของลูกจ้างทีโออาร์ เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะรายได้น้อย การจ่ายเงินให้ลูกจ้างรับเหมารวดเร็วในระยะเวลาวันทำการ และเป็นเรื่องที่จะต้องรีบปฏิบัติ เพื่อให้เกิดกลไกในการทำงาน
พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ทำให้เกิด เสียชื่อเสียงอย่างมาก ตนได้สั่งตั้งคณะกรรมการโดยด่วนเพื่อรายงานผู้บังคับบัญชา ผู้ว่าราชการจังหวัด และท่านอธิบดีกรมอุทยานฯ ว่าตนไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีคำสั่งตั้งแต่เมื่อวาน แต่บังเอิญในวันนี้ ยังดำเนินการไม่ได้ เนื่องจากนิติกรที่จะต้องเป็นเลขาในการตรวจสอบ ได้ติดภารกิจ ไปตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาบางคน ที่มีความประพฤติไม่อยู่ในระเบียบ วินัย ซึ่งต้องรออาจจะเป็นวันนี้ หรือไม่ก็พรุ่งนี้ ก็เดินทางกลับมา และก็จะได้ไปสู่ขั้นตอนการตรวจสอบ
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา จะได้มีพื้นที่ชี้แจงว่าสิ่งที่ทำเป็นอย่างไร ส่วนผู้กกล่าวหาก็จะได้มีพื้นที่แจ้ง หากพบว่ามีความผิดจริงตนเองยืนยันว่า จะไม่เอาไว้ อย่างแน่นอน เพราะราชการต้องอยู่ด้วยระเบียบ ความถูกต้องภายใต้กฎเกณฑ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำนโยบายของประเทศ กระทรวง ปลัดกระทรวง จนถึงอธิบดี เรื่องความโปร่งใส จะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างชัดเจน
หากพบว่าผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนได้คุยกับทางด้านกฎหมายแล้ว เป็นไปได้ไหม ถ้าถูกกลั่นแกล้ง จนถึงการให้ออกจากงาน มันจะต้องมีการเยียวยา และเปิดโอกาสให้มีงานทำในอนาคต
