หลังจากนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวยังอำเภอเกาะช้างระหว่างวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2563 ทำให้มีรถยนต์ที่ลงไปอยู่เกาะช้างจำนวนหลายพันคัน และในวันนี้ (6 กรกฎาคม 2563) นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางกลับ ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มเดินทางในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นมา ทำให้ที่ท่าเรือเฟอร์รี่ท่าอ่าวสับปะรดใน ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง มีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวจำนวนกว่า 500 คัน รอคิวลงเรือเฟอร์รี่ที่สามารถใช้งานได้เพียง 3 ลำ เนื่องจากช่วงครึ่งแรกน้ำลงเรือบางลำที่กินจะเข้าท่าไม่ได้จนกว่าจะถึงเวลา 13.00 น.
จากปัญหาดังกล่าว ทำให้รถยนต์ที่รอลงเรือเฟอร์รี่ท่าอ่าวสับปะรดต้องรอคิวลงเรือเฟอร์รี่ยาวถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง รวมระยะทางกว่า 3 กม. ทั้งนี้ เรือเฟอร์รี่ทั้ง 3 ลำสามารถขนรถยนต์ข้ามฟากได้รวม 150 คัน/เที่ยว/45 นาที
ขณะที่ท่าเรือเฟอร์รี่บ้านด่านเก่า ต.เกาะช้าง ของท่าเรือเฟอร์รี่เซนเตอร์พอยท์ ที่ห่างจากท่าเรือที่อ่าวสับปะรดประมาณ 3 กม. มีรถยนต์ลงเรือเฟอร์รี่จำนวนมากเช่นกัน และต้องรอคิวยาวกว่า 500 เมตรเช่นกัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จราจร สภ.เกาะช้าง และเจ้าหน้าที่เทศบาล ต.เกาะช้าง และ อส.สมัครกู้ภัยสว่างเกาะช้าง รวมทั้งภาคเอกชนจากสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ตราด ได้ร่วมกันประสานงานและอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้แล้ว เพื่อให้การเดินทางกลับเร็วที่สุด
นายกำพล เจริญขจรกุล อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้หารือกับผู้ประกอบการไว้แล้วว่าให้เช็กเอาต์ออกจากโรงแรมในเวลา 13.00 น. แต่นักท่องเที่ยวกลัวจึงออกมาแต่เช้า และเรือเฟอร์รี่ยังใช้งานได้ไม่ทั้งหมดเพราะเป็นช่วงน้ำลง น้ำทะเลจะขึ้นในเวลา 10.00 น. และขึ้นเต็มที่ในช่วงบ่าย ซึ่งเราได้แก้ปัญหาด้วยการจัดคิวลงเรือเฟอร์รี่โดยไม่ให้มีการแซงขวา พร้อมนำน้ำมาแจกจ่ายให้กับรถยนต์ที่กำลังลงทุกคัน โดยรถยนต์ที่จะเดินทางไปยังท่าเรือด่านเก่าจะให้แซงไปและไปเลี้ยวเพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่อีกแห่งเพื่อไม่ให้รถยนต์ที่ผ่านไม่มาติด ซึ่งขณะนี้รถยนต์ที่รอคันสุดท้ายอยู่ตรงรร.ริเวอร์ไซด์ หรือ 3 กม.จากท่าเรือ ก่อนหน้านี้อยู่ที่หน้าอุทยานฯเกาะช้าง ซึ่งขณะนี้มี 5 หน่วยงาน ร่วมกันแก้ไข
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในขณะนี้ (12.00 น.) เริ่มมีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวเดินทางกลับจาก อ.เกาะช้างเพิ่มมากขึ้น และรถยนต์ต่อลงเรือยาวเกินศาลเจ้าพ่อเล้าหมู เลยที่ทำการอุทยานฯเกาะช้างไปแล้ว ซึ่งห่างจากท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวสับปะรดประมาณ 5 กม. โดยรถยนต์ที่จะไปท่าเรือเฟอร์รี่ด่านเก่า จะให้เปิดไฟสัญญาณแซงขึ้นไป เพื่อไปขึ้นอีกท่า ซึ่งจะทำให้การต่อคิวลดเวลาลงไป
อย่างไรก็ตาม ยังมีรถยนต์จากฝั่ง อ.แหลมงอบลงมาท่องเที่ยวที่ อ.เกาะช้างเช่นกัน แต่มีจำนวนไม่มากนัก และทางผู้ประกอบการเฟอร์รี่จะนำเรือเปล่ามารับรถยนต์ที่ท่าเรือในฝั่งอำเภอเกาะช้างทันที เพื่อเร่งระบายรถยนต์จากฝั่ง อ.เกาะช้างให้เร็วที่สุด และไม่จำกัดเวลา
โดยนายธีระศักดิ์ สรวมชีพมาเสือ รองนายกเทศมนตรีตำบลเกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4-5 กรกฎาคม ทั้งจำนวนท่องเที่ยว จำนวนรถยนต์ ทั้งเข้าและออกเกาะช้าง พบว่า
สำหรับท่าเฟอร์รี่เซ็นเตอร์พอยท์
-รถยนต์ ขาเข้าเกาะ 542 คัน
-ผู้โดยสาร ขาเข้าเกาะ 2,023 คน
-รถยนต์ ขากลับออกจากเกาะ 216 คัน
-ผู้โดยสาร ขาออกจากเกาะ 223 คน
ท่าเฟอร์รี่เกาะช้าง อ่าวธรรมชาติ
-รถยนต์ ขาเข้าเกาะ 3,500 คัน
-ผู้โดยสาร ขาเข้าเกาะ 8,000 คน
-รถยนต์ ขากลับออกจากเกาะ 500 คัน
-ผู้โดยสาร ขาออกจากเกาะ 1,500 คน
เมื่อรวมทั้ง 2 ท่าเรือแล้ว พบว่า มีรถยนต์ 4,042 คัน มีผู้โดยสาร 10,023 คน ที่ข้ามไปยังเกาะช้าง และขากลับจากเกาะช้าง มีรถยนต์ จำนวน 716 คัน และมีผู้โดยสาร 1,723 คน
