นอภ.แม่ริม แจง “ฌอน” เปิดรับบริจาค มีผู้เสียหายร้องเรียนเพียงราย รายเดียว แต่ยังไม่แจ้งความดำเนินคดี บอกข้อหาฉ้อโกงยังไม่ชัดเจน เผยเห็นร่วมปลูกป่ากับ “ประวัตร” แค่ชั่วโมงเดียว แต่ไม่ได้ตั้งโต๊ะเรี่ยไร เผย “ฌอน” ล่องหน ปิดเครื่อง-ติดต่อไม่ได้ แนะไปพบ พงส. ชี้แจง-ตอบข้อสงสัยสังคมทุกคำถาม
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นายอรรถชา กัมปนาทแสนยากร นายอำเภอ แม่ริม จ.เชียงใหม่ เผยกรณีนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง เปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือจิตอาสาดับไฟป่าดอยสุเทพ แต่ไม่ได้ช่วยเหลือตามที่กล่าวอ้าง ก่อนมีกระแสข่าวหลบหนีออกไปต่างประเทศ ว่า นายฌอน ไม่ได้ขออนุญาตเปิดรับบริจาคที่กรมการปกครอง และอำเภอแม่ริม ซึ่งให้เจ้าหน้าที่โทรไปให้มาชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ไม่เปิดโทรศัพท์ จึงไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งนายฌอน ไม่ได้ติดต่อกลับมาอย่างใดเรื่องดังกล่าว มีผู้เสียหายไปแจ้งความที่กรุงเทพฯ แล้ว เป็นอำนาจหน้าที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ต้องรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย
“อำเภอได้รับเรื่องร้องเรียน กรณีนายฌอน เปิดรับบริจาคเพียงรายเดียวแต่ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง เพียงแต่นำเรื่องดังกล่าว มาปรึกษาฝ่ายปกครองเท่านั้น ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีใด ๆ เพราะผู้เสียหายดังกล่าว ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานก่อน ดังนั้นการกระทำผิดดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งอำเภอไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีฉ้อโกงได้ เพราะยังไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน จึงสรุปว่าข้อหาฉ้อโกง ยังไม่ชัดเจน”นายอรรถชา
กรณีนายฌอน อ้างว่าไปร่วมปลูกป่ากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ที่ห้วยตึงเฒ่า ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม นั้น ผมไปร่วมต้อนรับ พล.อ.ประวิตร เพราะอยู่ในเขตรับผิดชอบ และเห็นนายฌอนร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพียง 1 ชั่วโมง ก่อนนายฌอน และทีมงานเดินทางกลับ แต่ไม่ได้ตั้งโต๊ะเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือจิตอาสาดับไฟป่า จึงไม่มีความผิดฐานเรี่ยไรเงินอย่างใด
“กรณีเปิดรับบริจาคเงินผ่านบัญชีส่วนตัว และใช้เงินบริจาคตรงกับวัตถุประสงค์หรือไม่นั้น ทางอำเภอไม่มีอำนาจหน้าที่ไปตรวจสอบเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีดังกล่าว ว่ามีการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินอย่างไร แบบไหน และใคร มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ดังนั้นนายฌอน ควรไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าว เพื่อความโปร่งใส และตอบข้อสงสัยของสังคมทุกคำถาม” นายอรรถชา กล่าว
นายอรรถชา กล่าวอีกว่า กรณีนายฌอน เปิดรับบริจาค ทางกรมสรรพากร สามารถตรวจสอบได้ แต่อาจใช้เวลา เพราะการเปิดรับบริจาคมีระยะเวลาให้ส่งบัญชีแสดงรายรับ-รายจ่าย จนถึงสิ้นปี ดังนั้นผู้เปิดรับบริจาค อาจยื่นแบบแสดงบัญชีดังกล่าวภายในมีนาคม ปีหน้า ถึงทราบว่ามียอดบริจาค และค่าใช้จ่ายเท่าไร เพื่อให้สังคมรับทราบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย