เจ้าของลิงตรังยืนยันดูแลเป็นอย่างดี ไม่เคยมีการทรมานลิงขึ้นมะพร้าว และถือเป็นการใช้งานถูกประเภท โอดหากไม่มีลิง ไม่สามารถจะหาแรงงานมาทดแทนเก็บมะพร้าวได้
วันที่ 8 ก.ค. หลังจากที่ลิงถูกนำมาเป็นประเด็นการกีดกันทางกัดกันทางการค้าของพืชมะพร้าว ด้านจังหวัดตรังเจ้าของสวนมะพร้าวยังคงต้องพึ่งพาเจ้าของลิง นำลิงมาปีนเก็บมะพร้าวเนื่องจากต้นสูงมาก จ้างคนไม่ไหวราคาค่าปีนเก็บต่อต้นสูงมากในราคาต้นละ 100 บาท ซึ่งจะทำให้ขาดทุน เพราะมะพร้าวแต่ละต้นจะได้ผลมะพร้าวไม่กี่ผล และราคาถูกขึ้นอยู่กับขนาดของผลมะพร้าว
นายเสงี่ยม เจริญสุข อายุ 75 ปี ชาวหมู่ 2 ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด เจ้าของสวนมะพร้าว ต้องให้ลิงมาขึ้น ต้นละ 10 กว่าผล ราคาเมื่อปลายปี 15 – 20 บาทต่อลูก ทรมานสัตว์คือ การขังทรมานไม่ให้กินอะไร แต่นี่เลี้ยงอย่างดี ให้กินอาหาร อาบน้ำ เป็นวิถีของชาวบ้านที่มีมายาวนาน จึงไม่เห็นด้วยที่คนมากล่าวหาลิงเก็บมะพร้าวเป็นการทรมานสัตว์
นายสิงหา หนูสุย อายุ 47 ปี เจ้าของลิง อาชีพรับซื้อมะพร้าว กล่าวว่า การใช้งานลิงขึ้นอยู่กับความสมัครใจของมันที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่างดี โดยซื้อมาจากจังหวัดชุมพรในราคาตัวละ 25,000 บาท มันรู้หน้าที่ เมื่อขึ้นไปก็เก็บผลมะพร้าว พอมันเหนื่อยมันก็หยุดของมัน ใครจะบังคับมันได้ ไม่ได้เป็นการทรมาน การเลี้ยงดูก็อย่างดี ให้กินข้าววันละ 3 มื้อ กินกล้วย กินสิ่งที่มันชอบ ซื้อให้กินเพื่อเอาใจมัน รักมัน คนที่เลี้ยงลิงจะรักลิงเหมือนลูก ดูแลอย่างดีกินอาหารอุดมสมบูรณ์ อาบน้ำให้ ซึ่งปกติลิงเป็นสัตว์ประเภทปีนป่ายต้นไม้อยู่แล้ว จึงถือว่าเป็นการใช้งานที่ถูกประเภท ไม่มีการทรมานสัตว์อย่างแต่ใด ทั้งนี้ หากไม่มีลิง จะใช้แรงงานคนทดแทนไม่ได้ ราคาแพงมากต้นละ 100 บาท ไม่คุ้มกับค่าจ้าง ขณะนี้ราคามะพร้าวลูกละ 10 – 15 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด
“เชื่อว่าปีหน้าจะแพง เพราะปีนี้ฝนแล้ง จะส่งผลทำให้ผลผลิตในปีหน้าเหลือน้อย ส่วนตัวคาดเดาไม่ถูกว่า ถ้าไทยถูกแบนส่งออกกะทิหรือสินค้าที่มีกะทิไปต่างประเทศไม่ได้ จะทำให้มะพร้าวราคาถูกลงหรือไม่ เพราะไม่ทราบว่าปัจจุบันเขาส่งออกกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ที่ทราบเขาจะส่งมะพร้าวเข้าโรงงานเป็นจำนวนที่มาก แต่ภาพรวมมะพร้าวขณะนี้เหลือผลผลิตไม่มาก คนปลูกน้อย ทุกวันนี้คนโค่นมากกว่าปลูก และหันไปปลูกยาง ปาล์มน้ำมันแทน หรือหากปลูกก็จะปลูกมะพร้าวน้ำหอม แทนปลูกมะพร้าวทำกะทิ” นายสิงหากล่าว
