ลูกสาวกำนันเขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี รมควันตัวเองในรถดับ
วันที่ 8 ก.ค. ร.ต.อ.สุภชาติ วสุสกุลเจริญ รอง สว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชลบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลบางละมุง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา ร่วมตรวจสอบเหตุคนรมควันตัวเองเสียชีวิตในรถยนต์ส่วนตัว เหตุเกิดข้างกำแพงบริเวณบ้านกำนันเขียว หมู่ที่ 1 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุบริเวณริมรั้วข้างบ้านพบศพ น.ส.ศิรินทิพย์ กีทีปกูล อายุ 27 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขายาวสีดำ นอนอยู่บนเสื่อหลังจากญาติทุบกระจกแล้วนำออกมาจากรถเพื่อช่วยปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถช่วยทันจึงเสียชีวิต โดยมีญาติๆ นั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายหรือต่อสู้ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ชม. ใกล้กันพบรถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ขษ-5554 ชลบุรี จอดอยู่ ซึ่งพบว่าที่กระจกหน้าด้านซ้ายถูกทุบจนแตกทั้งบาน ภายในบริเวณพื้นที่นั่งข้างคนขับพบเตาถ่านซึ่งติดไฟไว้วางอยู่ และมีฝาหม้อต้มแบบกระจกครอบด้านบน รวมทั้งยังพบถ่านไม้อีก 1 ถุง โดยภายในรถมีกลิ่นเหม็นของควันไฟไปทั่ว
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นบุตรของนายศิริไพศาล กีทีปกูล กำนันในพื้นที่ตำบลเขาไม้แก้ว และเป็นหลานนายก อบต.เขาไม้แก้ว โดยผู้ตายทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ตามปกติหลังเลิกงานผู้ตายมักจะพักอยู่ที่คอนโดหรือกลับบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ ส่วนบ้านที่มาจอดรถและกระทำการฆ่าตัวตายนั้น เป็นบ้านที่บิดาเพิ่งก่อสร้างเพื่อให้ผู้ตายมาพักอยู่ร่วมกัน และเตรียมจัดงานบุญในเร็วๆ นี้ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากทางบ้านก็ถือเป็นคนมีฐานะ ขณะที่ปัญหาอื่นๆ ก็ไม่เคยระบายให้ใครฟัง
ทั้งนี้ ทางญาติให้การว่าบ้านหลังนี้ยังก่อสร้างไม่เสร็จ โดยทุกเย็นกับเช้าจะมีพี่ชายของผู้ตายมาปิดไฟในบ้าน ซึ่งเช้าวันนี้ก็เข้ามาตามปกติแต่เห็นรถผู้ตายจอดอยู่ข้างบ้านจึงไปตรวจสอบ และพบร่างผู้ตายนอนแน่นิ่งอยู่บริเวณที่นั่งคนขับมีควันไฟคละคลุ้งทั่วรถ จึงพยายามเรียกและเปิดประตูแต่พบว่ารถถูกล็อกจากด้านในจึงตัดสินใจทุบกระจกก่อนนำตัวออกมาด้านนอก พร้อมทำการปั๊มหัวใจแต่พบว่าไม่ทันการณ์จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ
อย่างไรก็ตาม จะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการเวรแลพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ พร้อมทำการสอบสวนญาติและบุคคลใกล้ชิดเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
