จบด้วยดี! ตร.กมลา เรียกสาวหล่อ-เจ้าของร้านอาหารดังเคลียร์ปัญหาเมนู 2 ฝ่ายรับสื่อสารผิดพลาด

จบแล้วแยกย้าย! ตร.กมลา เรียกสาวหล่อและเจ้าของร้านอาหารดังเข้าพบเคลียร์ปัญหา เมนูหมึกกระเทียม และคั่วกลิ้งหมู สองฝ่ายรับสื่อสารผิดพลาด

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ Lalita K. Chaiyasit” ได้โพสต์ภาพบิลค่าสั่งอาหารอาหาร พร้อมข้อความระบุว่า “****เตือนภัย**** คนที่มาเที่ยวภูเก็ตนะคะ ร้านชื่อ “นานอก” อยู่กมลา ทางเราไม่ได้ไปร้านเองนะคะ อยู่โรงแรมค่ะ ไกด์เป็นคนไปซื้อแล้วจัดการทุกอย่างให้นะคะ ปล.ทางเราเพิ่งรู้ว่าโรงแรมแนะนำให้ไกด์ไปนะคะ #ฝากแชร์ วันนี้เรากับทางครอบครัวมาเที่ยวค่ะ ทางเราไปซื้อกุ้งมังกรมาทั้งหมด 4 ตัว พอบิลมาแล้ว ตกใจราคา #หมึกกระเทียมราคา 2,500บาท และ #คั่วกลิ้งหมูราคา 850 บาท ตกใจราคามาก แล้วสั่งออร์เดอร์ไปให้ทำซาชิมิกุ้งมังกรมา 1 ตัว แต่ว่าพออาหารมาถึง ไม่ได้ตามที่ต้องการ แล้วอาหารกินไม่ได้เลยค่ะ รสชาติคือมันไม่โอเคมากๆ กินได้ค่ะ แต่เราลงทุนไปแค่ไหนก็แค่อยากให้มันว้าวอะ เพราะลงทุนมาพอสมควรเลย มันจ่ายอะมันจ่ายได้ แต่มันไม่ใช่อยู่ดีๆมาฟันแบบนี้อะ 555555”

ทั้งนี้ในภาพดังกล่าวเป็นภาพบิลอาหาร 3 ใบ บิลใบแรก มีรายการหมึกทอดกระเทียมราคา 2,500 บาท และคั่วกลิ้งหมูราคา 850 และอื่นๆ รวมเงิน 6,750 บาท บิลที่ 2 มีการลดราคาหมึกทอดกระเทียมจากราคา 2,500 บาทเหลือ 1,500 บาท รวมเหลือ 5,750 บาท และบิลที่ 3 ลดราคาหมึกทอดกระเทียมอีก 500 บาทเหลือ 1,000 บาท และลดราคาคั่วกลิ้งหมูจากราคา 850 บาท เหลือ 500 บาท ยอดรวมเหลือ 4,900 บาท

หลังจากที่มีการโพสต์ได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่อว่าทางร้านที่ขายในราคาสูงเกินจริง ทำให้ไม่มีใครอยากมาภูเก็ต

โดยเมื่อช่วงสาย วันนี้ (8 ก.ค.63) เจ้าหน้าที่สำนักคุ้มครองผู้บริโภคศูนย์ ดำรงธรรมภูเก็ต นำโดย อดิศร สวัสดี ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กมลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่ร้าน “นานอก” เลขที่ 94/19 หน้าชายหาดกมลา หมู่ที่ 3 ตำบล กมลา อำเภอกะทู้ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

Advertisement

ทั้งนี้ นายสิทธิเทพ ปรีชา ผู้จัดการร้านอาหาร “นานอก” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (7 ก.ค.) มีไกด์มาสั่งอาหารให้ลูกค้านำกลับไปทานที่โรงแรม โดยระบุว่าเป็นขนาด 10 คนกิน พร้อมนำของสดมาให้ปรุงอาหารอีกหลายเมนู ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า หมึกกระเทียมราคา 2,500 บาท นั้นเป็นเมนูที่ทางไกด์สั่งว่าให้ทำสำหรับ 10 คนกิน โดยทางร้านก็ทำตามที่สั่งคือ นำปลาหมึกมาทำอาหารโดยใช้ปลาหมึกประมาณ 2 กิโลกรัม ซึ่งปกติเวลาปรุงหาหารเมนูปลาหมึกให้แก่ลูกค้าก็จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ตัวต่อจาน ซึ่งขายอยู่ที่จานละประมาณ 250 บาท เช่นเดียวกับเมนูหมูคั่วกลิ้ง ซึ่งไกด์ได้ระบุว่าสำหรับ 10 คนกิน แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากลูกค้าท้วงมาเรื่องราคา ตนก็ได้ให้เด็กที่ร้านลดราคาให้ โดยครั้งแรกลดราคาเหมือนที่ทางผู้โพสต์แจ้งไว้ ซึ่งมีการลดราคากันถึง 3 ครั้ง ซึ่งหลังจากที่ตกลงราคากันที่ 4,900 ทางผู้โพสต์ก็ได้โอนเงินมาให้เป็นค่าอาหารประมาณ 4,000 บาท

ส่วนค่าทำอาหารที่ทางร้านคิดไป 3,000 บาท ทางลูกค้าได้นำของสดมาให้ทำหลายเมนู ประกอบด้วย กุ้งมังกรตัวใหญ่ จำนวน 4 ตัว ทำประมาณ 3 เมนู ประกอบด้วย ราดซอสกระเทียม ราดซอสมะขาม ซอสพริก นอกจากนั้น ยังมีปลามงขนาด 2 กิโลกรัม แบ่งทำเป็น 2 เมนู คือ ซาซิมิ และนึ่งมะนาว นอกจากนั้น ยังมีปลาเก๋า 2 ตัว ตัวละประมาณ 1 กิโล ทำเมนูราดพริก 1 ตัว อีกตัวตัด 2 ท่อน ต้มยำ 1 เมนู ส่วนอีกเมนูเป็นปลาเก๋าแกงส้ม

นายสิทธิเทพ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาทำร้านอาหารมา 30 กว่าปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจอกับเรื่องแบบนี้ ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ทำลายหม้อข้าวตัวเองอย่างแน่นอน เพราะเราทราบดีว่าการท่องเที่ยวเป็นอย่างไร สถานการณ์ในขณะนี้เราต้องการให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก และที่ผ่านมาถ้าเป็นลูกค้าคนไทยตนก็ลดราคาให้โดยตลอด 15-20%

Advertisement

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (8ก.ค.) ที่ห้องประชุมสภ.กมลา ภูเก็ต พ.ต.อ.ชัยพฤกษ์ ผาติวรากร ผกก.สภ.กมลา พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์พิชาญ ชยานนท์พิริย รองผกก.ป.สภ.กมลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ร่วมกันพูดคุยเจรจาสาวเจ้าของโพสต์กับเจ้าของร้านอาหารนานอก

พ.ต.อ.ชัยพฤกษ์ ผาติวรากร ผกก.สภ.กมลา กล่าวว่า จากการพูดคุยกับเจ้าของโพสต์ทราบว่า เป็นการสื่อสารเข้าใจผิดพลาด ซึ่งทางไกด์ได้ประสานกับทางร้านโดยไม่ได้สอบถามลูกค้าว่าจะทานกี่คน แต่ทางไกด์เห็นว่าลูกค้ามากันประมาณ 10 คนจึงเข้าใจว่าทาน 10 คน ทางร้านจึงทำอาหารตามที่ไกด์สั่ง แต่จริงๆ แล้วลูกค้าจะสั่งอาหารของร้านเป็นอาหารจานเดียว เนื่องจากมีอาหารอย่างอื่นมาเสริมแล้ว เมื่อเรียกเก็บเงินทางลูกค้าตกใจและมีการต่อรองราคากัน จนจบในราคา 4,000 บาท เมื่อได้มีการพูดคุยกันแล้วทั้ง 2 ฝ่าย ต่างฝ่ายไม่ติดใจกันเป็นการเข้าใจผิดและสื่อสารกันผิดพลาด พร้อมมีการขอโทษซึ่งกันและกัน ส่วนสาวเจ้าของโพสต์ก็จะมีการโพสต์ขอโทษ พร้อมได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าของร้านอย่าคิดราคาอาหารแพง เพราะจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และช่วงนี้อยู่ในสถานการณ์โควิด-19 ให้มีการลดค่าราคาอาหารให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image