แม่เผยลางบอกเหตุ ก่อนลูกสาว 9 ขวบ เล่นผีหลอก โหนม่านพลาดลื่นตกคานดับ!

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ศุภาณี ภวภูตานนท์ อายุ 30 ปี มารดาของ ด.ญ.วัย 9 ขวบ หนูน้อยผู้เคราะห์ร้ายที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ โหนผ้าห่มที่ถูกนำมาขึงพรางตาแทนประตูทางเข้าบ้าน เพื่อหยอกล้อเล่นกับน้องๆ แต่พลาดพลัดตกจากชานประตูซึ่งเป็นพื้นต่างระดับสูงประมาณ 50 ซม.ก่อนที่พี่สาววัย 13 ปี จะพยายามเข้ามาช่วย และบิดามารดากลับมาพบ ต่างพยายามช่วยกันปั๊มหัวใจและนำตัวส่งไปยัง รพ.บางปะกง แต่เสียชีวิตลงในเวลาต่อมาว่า ในวันเกิดเหตุช่วงค่ำของวันที่ 12 กรกฎาคม เวลาประมาณ 20.30 น.

น.ส.ศุภาณี เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมนายสินติ ภาคยกุล อายุ 32 ปี สามีได้กลับมาจากการออกไปเร่ขายลูกชิ้นทอดตามตลาดนัด จากนั้นได้นำรถจักรยานยนต์ไปส่งคืนยังที่บ้านของลูกพี่ลูกน้องกันกับสามี ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนักเพียงช่วงระยะเวลาไม่กี่นาที ก่อนที่จะมาพบว่าบุตรสาวคนโตกำลังช่วยเหลือน้องสาววัย 9 ขวบ ที่อยู่ในสภาพใบหน้าเขียว และลำตัวอ่อนไม่มีแรง โดยบอกว่าน้องเป็นอะไรไม่รู้หลังจากแกะผ้าห่มออกจากคอ จากนั้นสามีได้พยายามที่จะปั๊มหัวใจและรีบนำตัวไปส่งยังที่ รพ.บางปะกง ในทันที แต่บุตรสาวได้สิ้นใจลงในเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากนั้นทางโรงพยาบาลได้นำศพส่งไปชันสูตรทางนิติเวช ยังที่ รพ.ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อ.องครักษ์ จ.นครนายก และรับศพกลับมารดน้ำ ตั้งบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรม ยังที่บ้านตั้งแต่เมื่อวานนี้ (14 กรกฎาค) เป็นคืนแรก โดยจะมีพิธีฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคมที่วัดบางวัว

“ล่าสุดในวันเกิดเหตุน้องยังนำขนมขบเคี้ยว (มันฝรั่งทอดกรอบ) ที่ได้มาจากย่านำมาป้อนแบ่งแก่น้องๆ และได้นำมาป้อนใส่ปากให้แก่ตนและสามีให้ได้กินด้วย ก่อนที่ตนและสามีจะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน เพื่อไปส่งคืนให้แก่ญาติ กระทั่งกลับมาพบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเองเลย” น.ส.ศุภาณี กล่าว

น.ส.ศุภาณี กล่าวอีกว่า ลางบอกเหตุก่อนเกิดการสูญเสียน้องไปว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม ตนและสามีได้ปรึกษากันว่าจะเดินทางไปดูรถกระบะ เพื่อที่จะหาทางวางดาวน์ซื้อ นำมาใช้ขนของไปค้าขาย เนื่องจากปัจจุบันตนและสามียังต้องอาศัยรถกระบะของพี่สาวสามี ซึ่งมีอาชีพขายไก่ทอดช่วยขนของไปให้และขายพร้อมกัน โดยตนนั้นขายลูกชิ้นทอด ซึ่งในวันนั้นน้องมีนได้บอกกับสามีว่า “พ่อหนูไม่เอาคันสีขาวนะ หนูอยากได้สีดำ” โดยตนก็ยังพูดกันถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะมาเกิดเหตุ

Advertisement

“ขณะอีกวันต่อมา นางมะลิ เขียวละลิ้น ผู้เป็นย่าได้ให้น้องช่วยนับเงินค่าสินค้า เพื่อคิดเงินจากลูกค้าที่มาซื้อกล้วยและผลไม้ที่นางมะลิ หั่นใส่ถุงขาย แต่บุตรสาวได้คิดเงินผิดรวมได้ยอดเป็นเงินค่าผลไม้ 613 บาท ขณะที่ผู้เป็นย่าได้ทักท้วงว่า ค่าของที่ขายรวมกันได้เพียง 600 บาทเท่านั้น และอีก 13 บาทนั้น มาจากไหน จากนั้นน้องจึงได้คิดราคาใหม่เป็นเงิน 600 บาท จนมาเกิดเหตุร้ายขึ้นกับน้อง และเสียชีวิตลงในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งของวันที่ 13 ในที่สุด” น.ส.ศุภาณี กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image