ค้านกรมอุทยานฯจัดเก็บซ้ำซ้อน ค่าเข้าชม “ถ้ำน้ำลอด” หวั่นนักท่องเที่ยวหาย-กระทบรายได้ชุมชน

เมื่อเวลา 13.30น. วันที่ 16 กรกฏาคม 2563 นายรุ่งวิกรัย พิชญากร ประชาสัมพันธ์กลุ่มบริหารจัดการท่องเที่ยวถ้ำน้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมชาวบ้าน หมู่ที่ 1 บ้านถ้ำลอด กว่า 200 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายสุวพงศ์ กิตติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมมติจากการจัดทำประชาคมหมู่บ้าน คัดค้านการเก็บค่าบริการเข้าชมถ้ำลอด ของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยขอให้กลุ่มบริการนำเที่ยวถ้ำลอดจัดเก็บค่าบริการนำเที่ยวเองตามเดิม และให้กลุ่มบริการนำเที่ยวถ้ำลอด แบ่งรายได้ให้กับเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ในอัตรา 30 บาท/กลุ่มนักท่องเที่ยว

นายรุ่งวิกรัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านมีการบริหารจัดการจัดตั้งกลุ่มแพและกลุ่มตะเกียงให้บริการนักท่องเที่ยวในลักษณะไกด์ท้องถิ่น ในอัตรา 150 – 450 บาท/กลุ่ม และได้หักค่าบริการ 10 บาท/รอบ มาใช้ในการพัฒนาชุมชน ตลอดจนดูแลพัฒนา และรักษาสภาพแวดล้อมของถ้ำลอด ทั้งนี้กลุ่มฯเกรงว่าการที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ดำเนินการจัดเก็บค่าบริการเข้าชมถ้ำลอด ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นมาในอัตรา คนไทย 20 บาท และชาวต่างชาติ 200 บาท อาจทำให้นักท่องเที่ยวลดน้อยลง เพราะมีการเก็บค่าบริการที่ซ้ำซ้อน หรือ สองต่อ อีกทั้งเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ไม่มีการประชาสัมพันธ์หรือแนะนำการให้บริการนำเที่ยวของกลุ่มฯ จะทำให้ชาวบ้านขาดรายได้

 ภาพ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

“สืบเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 ทำให้การท่องเที่ยวบ้านถ้ำลอดหยุดชะงักลง ต่อมาวันที่ 1 กรกฎาคม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ซึ่งดูแลพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวถ้ำน้ำลอด อนุญาตให้เปิดการท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งก่อนเปิดการท่องเที่ยว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ได้ทำหนังสือแจ้งเมื่อ 23 มิถุนายน 2563 ว่าจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป ทำให้ส่งผลกระทบในวงกว้าง และระยะยาว เนื่องจากนักท่องเที่ยวต้องจ่าย 2 ต่อ คือ จ่ายให้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ คนไทยคนละ 20 บาท ต่างชาติคนละ 200 บาท และต้องจ่ายค่าบริการนำเที่ยวเข้าชมข้างในถ้ำ – เที่ยว 2 ถ้ำ กลุ่มละ 200 บาท กลุ่มละไม่เกิน 3 คน ทั้งคนไทยและต่างชาติ เที่ยว 3 ถ้ำ รวมล่องแพ กลุ่มละ 450 บาท กลุ่มละไม่เกิน 3 คน ทั้งคนไทยและต่างชาติ สำหรับการจัดเก็บเงินของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ มีการอ้างว่าเพื่อเป็นค่าบริการหรือค่าตอบแทนพนักงาน เจ้าหน้าที่ ที่ให้บริการหรือให้ความสะดวกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ แต่ปกติเจ้าหน้าที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแล บริการ หรืออำนวยความสะดวกภายในถ้ำเลย ทั้งหมดดูแลโดยชุมชนมากว่า 40 ปี”

ชาวบ้านและกลุ่มบริการนำเที่ยวกังวลว่าการเก็บค่าบริการเพิ่มนอกเหนือจากค่าบริการนำเที่ยวของชุมชนแล้ว อาจกระทบต่อการท่องเที่ยวของชุมชน เนื่องจากต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มขึ้น อาจทำให้สถานการณ์การท่องเที่ยวแย่ลง เพราะนักท่องเที่ยวอาจไม่ประชาสัมพันธ์หรือบอกต่อบุคคลอื่น ทำให้ในอนาคต อาจมีนักท่องเที่ยวมาถ้ำลอดน้อยลงหรือไม่มาเที่ยว จะกระทบต่อชุมชนบ้านถ้ำลอด ซึ่งประชากรในหมู่บ้านถ้ำลอด ร้อยละ 95 % มีรายได้หลักจากการบริการนำเที่ยวถ้ำน้ำลอด หากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาก็ขาดรายได้หลักแล้วจะดำรงชีวิตกันต่อไปอย่างไร ลูกหลานไม่สามารถได้เรียนในระดับสูง อยากวิงวอนผู้รู้หรือผู้เกี่ยวข้องช่วยแนะแนวทางแก้ปัญหาในครั้งนี้

Advertisement

ว่าที่ร.ท.ขุนทอง สายบุตร ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะผู้บริหารเดินทางไปราชการต่างจังหวัด อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้านมาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันโดยเร็ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image