อาสากู้ภัยสว่างอริยะเมืองนครนายก เข้าช่วยเหลือ หญิงสาวรายหนึ่งหลังเดินมาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน อ้างถูกแฟนหนุ่มที่คบหากันมานานหลอกให้มาห้องเช่า หวังให้เพื่อนชายอีก 2 คน รุมโทรม อ้างเพื่อนตนที่มาด้วยอีก2คนรู้เห็นกับแฟนหนุ่มก่อนชิงกลับก่อน เหลือเพียงคนเพียงคนเดียว แต่แล้วโป๊ะแตะอาสากู้ภัยได้พาส่งสภ.บ้านนาก่อนยอมรับว่าคำนำหน้าเป็นนาย
เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา อาสากู้ภัยได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครนายก ว่ามีเหตุหญิงสาวถูกแฟนหนุ่มลวกมาให้เพื่อนอีก 2 คนในห้องเช่าหวังรุมโทรม จึงรีบไปยังทีเกิดเหตุ หน้าบ้านเลขที่ 81 หมู่5 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนครนายก ซึ่งเป็นบ้านของชาวบ้านที่หญิงคนดังกล่าวไปขอความช่วยเหลือ เมื่ออาสากู้ภัยไปถึงจึงได้ให้อาสากู้ภัยที่เป็นผู้หญิงเข้าไปสอบถาม โดยผู้หญิงที่อ้างว่าถูกแฟนหนุ่มหลอกมานั้นสวมใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ นำเสื้อคลุมพยายามปกปิดใบหน้าอยู่ตลอดเวลา โดยได้บอกว่า ตนเองชื่อ น้ำทิพย์ มูลพดุง อายุ 21 ปี มาจากตำบลป่าขระ อำเภอบ้านนา ซึ่งวันนี้เป็นวันเกิดตน แฟนหนุ่มที่คบหากันมาได้ 3 ปี ได้ไปรับตนและมีเพื่อนตนอีก 2 คน ไปกินหมูกระทะที่อำเภอบ้านนา ก่อนที่แฟนหนุ่มจะพาตนและเพื่อนมาที่ห้องเช่าที่ ตำบลท่าทราย ซึ่งตอนนั้นเพื่อนของตนอีก 2 คนได้ขอกลับบ้านไปก่อน เหลือเพียงตน จากนั้นแฟนหนุ่มได้ให้ตนเข้าไปในห้องเช่าของเพื่อน เมื่อตนเข้าไปแล้ว ได้มีเพื่อนของแฟนหนุ่มอีก 2 คนได้โผล่ออกมาก่อนที่จะผลักตนลงไปกับที่นอน ด้วยความตกใจตนได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนที่เพื่อนข้างห้องได้เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน โดยเหตุการณ์นี้ตนเชื่อว่าเพื่อนตนอีก 2 คนรู้เห็นกันแฟนหนุ่มที่ได้ขอตัวกลับไปก่อนและทิ้งตนเอาไว้เพียงคนเดียว
จากนั้นแฟนหนุ่มและเพื่อนได้ขับขี่รถออกมาส่งตนที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน ก่อนที่จะบอกว่าถ้าอยากกลับบ้านก็ให้กลับเอง ตนเลยเดินมาตามถนนก่อนที่จะชาวบ้านและขอความช่วยเหลือ จนกระทั้งอาสากู้ภัยได้เดินทางมาถึง
โดยตนกับแฟนหนุ่มคนนี้ได้คบหากันและมีลูกด้วยกัน 1 คน แม่ตนได้เอาไปเลี้ยงดูที่จังหวัดอุบลราชธานี
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางวรรณนา รวยทรัพย์ อายุ 59 ปี ชาวบ้านที่ผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือ ได้บอกว่า ตอนที่ผู้เสียหายเดินมาขอความช่วยเหลือนั้นตนกำลังกำผักบุ้งอยู่หน้าบ้าน จากนั้นได้มาขอความช่วยเหลือกับตน ว่าอยากกลับบ้าน ตนได้ถามว่ามาจากไหนก่อนที่ ผู้เสียหายจะบอกว่าแฟนได้พามาทิ้งไว้ตรงศาลาประชาคมหมู่บ้าน จากนั้นตนได้ไปบอกผู้ช่วยหมู่บ้าน และได้ทำการสอบถาม พอได้รู้ก็ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเองก็กลัวเนื่องจากผู้เสียหายนั้นเป็นผู้หญิงมาคนเดียวและมีอาการจะเป็นล้ม จึงได้หาน้ำหายาดมมาให้ดมจากนั้นอาสากู้ภัยได้ให้ความช่วยเหลือหญิงสาวรายนี้โดยได้อาสาพาไปส่งที่สภ.บ้านนา แต่ระหว่างที่จะพาไปส่งนั้นอาสากู้ภัยสว่างอริยะเมืองนครนายก ได้ขอถ่ายภาพหญิงสาวรายนี้และส่งภาพไปให้อาสากู้ภัยในพื้นที่อำเภอบ้านนาดูว่ารู้จักหรือเคยเห็นหญิงสาวรายได้หรือไม่ จนกระทั้งอาสากู้ภัยในพื้นที่อำเภอบ้านนาได้โทรกลับมาว่า หญิงสาวคนนี้ที่ส่งรูปไปนั้นจริงแล้วไม่ได้เป็นผู้หญิง แต่เป็นผู้ชาย ที่เป็นสาวประเภทสอง
และเมื่อมาถึงที่สภานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านนา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามอีกครั้ง จนกระทั้งยอมรับว่าจริงแล้วตนเองชื่อนายเกรียงไกร มูลผดุง และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าชื่อหน่อยใช่ไหม นายเกรียงไกลได้ปฏิเสธว่าตนเองชื่อแนน และตนเองไม่อยากที่จะแจ้งความเรื่องที่เกิดขึ้นและต้องการกลับบ้าน โดยได้โทรให้น้องมารับตน ส่วนแฟนหนุ่มที่ตอนแรกตนอ้างว่าตบกับมา 3 ปีนั้นจริงแล้วพึ่งคบกันได้เพียง 3 เดือน ส่วนลูกนั้นเป็นลูกติดของแฟน แม่ตนได้ขอเอาไปเลี้ยงที่จังหวัดอุบลราชธานี
โดยตั้งแต่แรกอาสากู้ภัยเริ่มเอะใจถึงความผิดปกติกับการให้การที่วกวนสับสน อีกทั้งรูปลักษณะของนายเกรียงไกรที่บอกว่าตนเองเป็นผู้หญิงนั้นมีลักษณะที่ไม่เหมือนผู้หญิง รวมถึงเค้าโครงใบหน้า และน้ำเสียง จนกระทั้งได้ขออนุญาติถ่ายภาพใบหน้าและขอให้อาสากู้ภัยในอำเภอบ้านนาได้ดูจนกระทั้งมารู้ว่า นายเกรียงไกรที่อ้างว่าคนเองเป็นผู้หญิงนั้น จริงแล้วเป็นเรื่องโกหก
แต่ส่วนเรื่องหลอกมารุมโทรมนั้น ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงเท็จอย่างไร เนื่องจากนายเกรียงไกรไม่ประสบเอาความและไม่ได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ก่อนที่จะรอให้รุ่นน้องมารับจากสภ.บ้านนาในเวลาต่อมา
