พิจิตรแล้งรุนแรง หอมมะลิกว่า 2,000 ไร่ใกล้ตาย ชาวนาวอนฝนหลวงช่วยนาข้าว
วันที่ 22 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตรว่า สถานการณ์ ภัยแล้งจังหวัดพิจิตร ทวีความรุนแรง ต่อเนื่อง ฝนที่หยุดตกทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ส่งผลกระทบต่อแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิแหล่งใหญ่ของจังหวัดพิจิตรที่ ตำบลหนองปลาไหล อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร ซึ่งเกษตรกรชาวนาสามารถทำนาได้แค่ปีละ1ครั้งเนื่องจากเป็นพื้นที่รองรับน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากและเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทานต้องอาศัยแหล่งน้ำจากฝนเพียงแหล่งเดียวในการปลูกข้าวหอมมะลิซึ่งในช่วงนี้กำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน
ส่งผลให้นาข้าวหอมมะลิในพื้นที่ซึ่งมีกว่า 2,000 ไร่ เริ่มแห้งเหี่ยวเฉาทยอยยืนต้นตายจากการขาดน้ำเป็นเวลานาน จากที่ฝนทิ้งช่วงจนส่งผลกระทบต่อต้นข้าวหอมมะลิที่เกษตรกรปลูกเอาไว้ที่อายุได้เกือบ 2 เดือน ได้รับความเสียหายคาดว่าหากยังไม่มีฝนตกลงมาในช่วงนี้อาจจะทำให้ต้นข้าวหอมมะลิที่ชาวนาปลูกเอาไว้ต้องเหี่ยวแห้งตายทั้งหมด
นายประทวน รุ่งฉัตร เกษตรกรชาวนาตำบลหนองปลาไหล อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ตนเองทำการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิได้อายุเกือบ 2เดือน โดยในช่วงนี่ทำการหว่านข้าวได้มีฝนตกลงมาในช่วงที่เพิ่งเริ่มหว่านข้าวใหม่พอข้าวโตได้อายุที่จะหว่านปุ๋ย แต่ไม่มีฝนตกลงมาเลยทำให้ต้นข้าวเริ่มแห้งเหี่ยวตายเพราะขาดน้ำเป็นเวลานานโดยต้นข้าวในพื้นที่ทั้งหมดที่เพาะปลูกข้าวหอมมะลิกว่า90เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เริ่มแห้งตายกันเป็นจำนวนมากถ้าไม่มีฝนตกลงมาภายในสิ้นเดือนนี้คาดว่าต้นข้าวต้องแห้งยืนต้นตายทั้งหมดวอนให้รัฐช่วยเหลือโดยการทำฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่เพาะปลูกข้าวที่กำลับประสบกับฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานทำให้ต้นข้าวเหี่ยวแห้งยืนต้นตาย
สำหรับพื้นที่ ตำบลหนองปลาไหล อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิแหล่งใหญ่ของพื้นที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งมีเนื้อที่ในการปลูกข้าวหอมมะลิกว่า 2,000 ไร่ แต่ในปีนี้พื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานซึ่งหากไม่มีน้ำในการเลี้ยงต้นข้าว ข้าวหอมมะลิที่ชาวนาลงทุนปลูกไว้จะทำให้ต้นข้าวหอมมะลิที่เพาะปลูกเอาไว้ยืนต้นแห้งเหี่ยวตายเสียหายทั้งหมด
