ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครนายก แถลงเหตุชายหัวร้อนชักปืนขู่จนท.รพ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครนายก แถลงเหตุการณ์ชายวัย 50 ปี หัวร้อนชักปืนขู่พนักงานโรงพยาบาลหลังช่วยผู้สูงอายุถอยรถเข้าที่จอด เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการถอดภาพกล้องวงจรปิดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก ตรวจสอบ ยืนยันกล้องที่โรงพยาบาลสามารถใช้งานได้ทุกตัว และหลังจากนี้จะยกระดับการรักษาความปลอดภัยภายในโรงพยาบาลให้สูงขึ้น
ที่ห้องประชุม ลออ-เฉลิม ตึกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลนครนายก นายแพทย์พรเพชร นันทวุฒิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครนายก ได้แถลงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ โดยได้บอกว่า จากการสอบถามนายเอนก พนักงานโรงพยาบาลที่ประสบเหตุ ได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุได้จอดรถเก็บขยะแอบอยู่บริเวณตึกสงฆ์ จากนั้นได้ลงไปช่วยคุณลุงคนหนึ่ง ถอนรถเข้าจอดในซองจอดรถ ซึ่งรถที่จอดไว้นั้นไม่ได้กีดขวางทางจราจร ขณะที่ตอนนั้นผู้ก่อเหตุขับขี่รถเก๋งสีดำตามมาก็ได้ขับรถแซงไปได้ นั้นก็หมายความว่าไม่ได้จอดรถกีดขวาง จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถมาเจอกับนายเอนกที่บริเวณลานจอดรถใกล้ประตูทางออกโรงพยาบาล ขณะนายเอนกกำลังช่วยผู้สูงอายุเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเข้าที่จอดรถ ตอนนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถมาจอดต่อท้ายรถเก็บขยะ จากนั้นได้ลงมาและมีปากเสียงกับนายเอนก
ส่วนกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ตอนนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวต้องดำเนินการถอดภาพออกมาตรวจสอบว่าขณะเกิดเหตุ นั้นเหตุการณ์ข้อเท็จจริงอะไรเกิดขึ้นบ้าน ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนเมื่อวานนี้นายเอนกได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองนครนายก เพื่อเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับเจ้าพนักงานเป็นที่เรียบร้อย
ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยทางโรงพยาบาลก็จะยกระดับให้มากขึ้น ขณะที่ทางผู้กำกับการ สภ.เมืองนครนายก ก็จะทำการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถจากกล้องวงจรปิดและตรวจสอบว่าผู้ที่ก่อเหตุนั้นเป็นเจ้าของรถหรือเป็นคนอื่นที่ยืมรถคันนี้มาใช้ เพื่อทราบตัวแล้วก็จะเชิญมาให้ปากคำและสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ส่วนนายเอนก พนักงานโรงพยาบาลที่ประสบเหตุ เมื่อวานตอนค่ำตนได้โทรเข้าไปสอบถามและให้กำลังใจ ในการปฏิบัติงานและช่วยเหลือผู้มาใช้บริการในโรงพยาบาล พร้อมให้คำแนะนำว่าอย่าจอดรถขวางทางจราจรในทางเดินรถ ที่ผ่านมาตั้งแต่ตนมาดำรงตำแหน่งได้มีการเรียกเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลมาทำการอบรมให้ความรู้เรื่องการบริการ ไม่ให้มีปากเสียงกับผู้มาใช้บริการอยู่แล้ว แต่สำหรับนายเอนกนั้นเป็นพนักงานที่ทำอยู่ในส่วนพนักงานสนามก็จะไม่มีโอกาสได้มาพบเจอกับผู้ป่วย ญาติผู้ป่วยอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการทำงานไม่ได้อยู่ในโซนงานบริการ และที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลนครนายกก็ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน
สำหรับเรื่องที่จอดรถในโรงพยาบาลนั้นในโรงพยาบาลมีสถานที่จอดรถเป็นจุดๆ และกำลังจะเปิดเพิ่ม แต่เมื่อมองในความเป็นจริง ไม่มีสถานที่ไหนที่มีเพียงพอต่อรถที่เข้ามาจอด และปัญหาที่โรงพยาบาลนครนายกประสบปัญหาคือ บุคคลภายนอกนำรถเข้ามาจอดภายในที่จอดรถของโรงพยาบาลที่ไว้บริการให้กับผู้มาใช้บริการและบุคคลากรทางการแพทย์ แต่บุคคลอื่นได้นำมาจอดทิ้งเอาไว้และออกไปทำงานที่อื่น จึงเป็นสาเหตุต้นๆ ที่ทำให้ที่จอดรถภายในโรงพยาบาลไม่เพียงพอ เบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้ประสานพื้นที่ห้างเอกชนที่ใกล้โรงพยาบาลเพื่อขอให้รถผู้มาใช้บริการขอเข้าจอด แต่ก็ไม่มีผู้มาใช้บริการเข้าไปจอด
หลังจากนี้ก็จะกำชับเจ้าหน้าที่และพนักงานของโรงพยาบาลว่าเลี่ยงการมีปากเสียงกับผู้มาใช้บริการ และหากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นให้รายงานมาที่ตนโดยตรง