“ไมค์” แกนนำเยาวชนตอ.พร้อมเพื่อนรวม 2 คน มาแสดงตัวหน้า สภ.เมืองระยอง ตามหมายเรียก แต่ไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา เป็นการแสดงอารยะขัดขืน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 กรกฎาคม นายภาณุพงศ์ จาดนอกหรือไมค์ แกนนำเยาวชนภาคตะวันออก และนายณัฐชนน พยัฆพันธ์ พร้อมนายภีมเดช อมรสุคนธ์ ทนายความ ประธานชมรมสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก เดินทางไปที่บริเวณหน้า สภ.เมืองระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง ตามหมายเรียกของตำรวจ สภ.เมืองระยอง ให้มารับทราบ 4 ข้อกล่าวหา ร่วมกันให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมในลักษณะมั่วสุม ประชุมกัน โดยผ่านจุดคัดกรองของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีรองผู้การตำรวจภูธร จ.ระยอง มายืนดูสถานการณ์ ใกล้ๆ กันมีรถควบคุมฝูงชนจอดรออยู่ริมรั้ว สภ.เมืองระยอง ส่วนกำลังชุดควบคุมฝูงชนทราบว่าเตรียมพร้อมอยู่บริเวณด้านหลังสถานีตำรวจ หลังมีรายงานว่าจะมีประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนมาก จึงจัดกำลังเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ แต่ปรากฏว่ามีเพียง 3 คนที่เดินทางมาจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มาให้กำลังใจเท่านั้น
ทั้งนี้นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาแสดงตัวที่หน้า สภ.เมืองระยอง แต่ไม่ยอมรับข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวน 1.พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2.พ.ร.บ.ควบคุมโรค 3.ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ 4.หลบหนีการจับกุม เจตนาที่มาวันนี้มาแสดงตัวว่าเราไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใจ เราบริสุทธิ์ใจที่จะต่อสู้คดี เราจะอารยะขัดขืน เนื่องจากข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เป็นไปตามที่กล่าวหา พวกเราเป็นผู้ถูกกระทำ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าโรงแรมดีวารี ดีวา เซ็นทรัลระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง ระหว่างรอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา
นายภาณุพงศ์กล่าวต่อว่า วันนั้นเราไปกันแค่ 2 คน ซึ่งน้อยกว่า 5 คน และยืนยันว่าสวมแมสก์ พอเราถูกฉุดกระชากทำให้แมสก์หลุด วันเกิดเหตุเรามีการเจรจากันก่อนที่จะเดินทางไปว่าจะมีการไปพบท่านนายกรัฐมนตรีเพื่อสอบถาม ว่านายกฯจะเยียวยาอย่างไร และจะรับผิดชอบอย่างไรกับกรณีที่ปล่อยให้ทหารอียิปต์เข้ามาประเทศไทย จากนั้นก็ถูกเจ้าหน้าที่พยายามฉุดกระชาก ส่วนเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าหลบหนีการจับกุม ขอชี้แจงว่าในวันเกิดเหตุไม่ได้พาเรามาที่ สภ.เมืองระยอง แต่กลับพาไปที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ซึ่งไม่มีพนักงานสอบสวน และเราก็บอกคนที่นำตัวเราไป ให้แสดงตนว่าเป็นใคร แต่ไม่มีใครแสดงตัว เราก็ไม่รู้ว่าที่พาเราไปที่ นปพ. จะมีความปลอดภัยหรือไม่ เราพยายามสอบถามว่าเป็นใครมาจากไหนแต่ไม่มีการตอบ จึงบอกว่าถ้าไม่ยอมบอกว่าเป็นใครผมก็จะเดินออกไปเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง หลังจากนั้นก็เดินออกมา โดยมีเจ้าหน้าที่ขับรถติดตามคอยประกบมาห่างๆ ตลอดเวลา
ด้านนายภีมเดช อมรสุคนธ์ ประธานชมรมสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก กล่าวว่า ผมอยากวิงวอนผู้ใหญ่ในกรมตำรวจและผู้ใหญ่ในประเทศให้รับฟังความคิดของเด็กและหาทางแก้ไขในเคสนี้อย่างสันติ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการตามขั้นตอนข้อกล่าวหาไป เดือดร้อนจะเป็นผู้ปฏิบัติที่ได้รับคำสั่ง อยากวิงวอนให้สนใจปัญหานิดหนึ่ง อย่าลืมว่าปัญหาของน้อง หลังจากนี้มันจะลุกลาม มันมีอารยะขัดขืนไปทั้งประเทศ เด็กรุ่นใหม่เขามีความคิดเห็นเป็นของตนเอง เมื่อวานนี้ที่รัฐสภายังบอกว่าให้รับฟังเด็กเลย การรับฟัง การพูดคุย มันจะช่วยลดปัญหา แต่ถ้าเลือกรับฟังฝ่ายเดียวมันก็จะเป็นปัญหาอย่างนี้
ประธานชมรมสิทธิมนุษยชนฯ กล่าวและว่า สรุปข้อกฎหมายวันนี้ น้องเขามาปรากฏตัวแต่ไม่ขึ้นไปรับทราบข้อกล่าวหา เพราะฉะนั้นก็เป็นหน้าที่ตำรวจว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ทางเราก็ตั้งรับ มีหมายมาเราก็ดำเนินการทีละขั้น แต่ถ้าถึงขนาดถูกจับผมก็ว่าวุ่นกันทั้งประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานมีผู้ที่เดินทางมาให้กำลังใจนายภาณุพงศ์ ทราบว่าเดินทางมาจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เนื่องจากเมื่อวานนี้นายภาณุพงศ์ เดินทางไปร่วมกับนักศึกษาที่ แหลมแท่น จ.ชลบุรี วันนี้จึงเดินทางมาให้กำลังใจ
