หนุ่มคลั่ง พังประตูบ้าน มีดจี้คอหลาน พ่อเข้าช่วย ไม้ฟาดศีรษะเลือดอาบหนีซ่อนตัวในครัว
ชายหนุ่มป่วยทางจิตและเสพยา “คลุ้มคลั่ง” บุกถีบประตู้บ้านญาติใช้มีดจี้คอเด็กชายอายุ 13 ปี พ่อเข้าไปช่วย ใช้ไม้ฟาดเข้าที่เข้าที่หัวเลือดอาบ ตำรวจเข้าชาร์จจับส่งโรงพยาบาล ส่วนเด็กบาดเจ็บมีแผลถูกมีดกรีดที่คอหัวไหล่และแขน ญาติเผยป่วยทางจิตประสาทไม่ยอมกินยาและพักหลังเสพยาด้วย
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 23 ก.ค. ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุชายคุ้มคลั่งใช้มีดจี้คอเด็กเหตุเกิดที่บ้านเช่าเลขที่ 42/28 ชุมชนหลังวัดคลองเปล หมู่ 4 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเวหาและสายตรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบเหตุการณ์ พบว่ามีเด็กผู้ชายอายุ 13 ปีชื่อเล่นว่าบาสบาดเจ็บ 1 คน มีแผลถูกมีดกรีดที่ลำคอ หัวไหล่ซ้ายและแขนซ้ายแต่ละแผลยาวเกือบ 1 นิ้วแต่ไม่ลึกมาก อาการปลอดภัย
รายงานข่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายธันวา ปัญญาล้ำ อายุ 35 ปี ได้วิ่งเข้าไปอยู่ในห้องครัวของบ้านเช่าเลขที่ 42/27 ที่อยู่ติดกันในสภาพที่ถูกตีที่ศีรษะเลือดอาบพูดไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่จึงใช้ยุทธวิธีในการสยบคนคลุ้มคลั่งส่งกำลังตำรวจ 5 นาย ใช้ไม้ง่ามเข้าไปล็อกตัวเอาไวได้อย่างทุลักทุเล และประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่มาทำแผลที่ศีรษะและนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่
จากการสอบถามพ่อของน้องบาส ที่ได้รับบาดเจ็บบอกว่า ขณะเกิดเหตุ นายธันวา ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน เช่าห้องอยู่ติดกัน ได้มาถีบประตูบ้านจนพัง ลูกชายซึ่งนอนดูทีวีอยู่กับแม่ตรงหน้าบ้านตกใจ วิ่งหนีเข้าห้องนอน ส่วนแม่หนีออกนอกบ้าน และนายธันวาได้ถือมีดเข้าในห้องนอนนั่งทับร่างลูกชายและใช้มีดยาว 3 นิ้ว จี้คอ
“ผมจึงใช้ไม้ตีเข้าที่ศีรษะ นายธันวา จนต้องวิ่งหนีออกจากบ้านไปซ่อนตัวอยู่ในห้องครัว ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากอาการประสาทหลอน เพราะตอนกลางวันซึ่งฝนตกก็มาหาเรื่องตนบอกว่าใช้สายยางฉีดน้ำใส่หลังคา”
ด้านน้องบาสที่บาดเจ็บบอกว่าตอนนั้นตอนดูทีวีอยู่กับแม่ นายธันวาก็ถีบประตูเข้ามาตนจึงวิ่งหนีเข้าห้องแต่ก็ยังตามมาถีบประตูห้องเข้าไป ใช้มีดจี้ที่คอซึ่งตกใจมากแต่พ่อได้มาช่วยไว้ได้ทัน
นางขวัญเรือน ปัญญาล้ำ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นแม่ของน้องบาส และเป็นอาของผู้ก่อเหตุบอกว่า นายธันวา มีอาการทางจิตประสาทเคยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ และโรงพยาบาลหาดใหญ่ แต่ระยะหลังไม่กินยารวมทั้งหันไปเล่นยา อาการจึงกำเริบหนัก จนคลุ้มคลั่งและก่อเหตุรุนแรงขึ้น หลังจากนี้คงต้องรักษาอย่างจริงจัง
ด้านคดีตำรวจต้องรอให้แพทย์รักษาอาการบาดเจ็บของ นายธันวา ให้ดีขึ้นและจะดูว่าญาติเอาเรื่องหรือไม่หรือจะส่งต่อไปรักษาอาการ
