ชาวบ้านในอำเภอสทิงพระรวมตัวกันแสดงพลังคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งชายหาดมหาราช ชี้ไร้ความจำเป็นเพราะไม่มีการกัดเซาะ และกังวลการกัดเซาะต่อเนื่องซึ่งต้องสร้างเขื่อนต่อไปอีก
รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลา เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม ตัวแทนภาคประชาชนในนามประชาชนชาวสทิงพระผู้มีหัวใจรักหาดทราย อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เดินทางมารวมตัวกันบริเวณชายหาดมหาราช อำเภอสทิงพระ ร่วมกันแสดงออกไม่เห็นด้วย กับโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาด ซึ่งดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เรียกร้องให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ยุติโครงการที่กำลังทำอยู่เพื่อทบทวนโครงการนี้เสียใหม่ เนื่องจากหาดมหาราช เป็นชายหาดที่สวยงาม ไม่ได้มีปัญหาการกัดเซาะชายหาดจนถึงขนาดกับต้องก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น โดยได้มีการดำเนินการก่อสร้างโครงการมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 ชาวบ้านได้พยายามยื่นเรื่องคัดค้านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ กลับมา วันนี้จึงได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงพลัง ร่วมกันถือแผ่นป้ายข้อความ #SAVE หาดมหาราช “ชาวสทิงพระไม่เอากำแพงกันคลื่น” โดยยืนยันที่จะเดินหน้าคัดค้านโครงการ เพื่อสร้างความตื่นตัว เพราะเชื่อว่าหากการก่อสร้างโครงการนี้แล้วเสร็จ หาดมหาราชจะไม่มีชายหาดอีกต่อไป และจะต้องมีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นในระยะถัดไปอีก ในขณะเดียวกันก็จะเกิดปัญหาการกัดเซาะในจุดที่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมง อันจะสร้างผลกระทบต่อไปไม่สิ้นสุด จึงเรียกร้องให้ยุติการก่อสร้าง เพื่อนำไปสู่การทบทวนโครงการเสียใหม่
นายนิธิวัฒน์ ชินพงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนชาวสทิงพระผู้มีหัวใจรักหาดทราย กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้พยายามเข้าไปคัดค้านในโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ในช่วงของการทำเวทีประชาคมมา 2 ครั้ง แต่ก็ไม่มีผลใดๆ ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้ต้องการเขื่อนกันคลื่น เพราะเห็นว่าไม่ได้มีปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งใดๆ หาดมหาราชยังเป็นหาดที่มีความสวยงาม ชาวประมงในพื้นที่ก็หากินกันตามปกติ ทำให้เราได้ออกมาคัดค้านอย่างต่อเนื่องได้ยื่นหนังสือไปหลายหน่วยงานแต่ก็ไม่ได้มีคำตอบใดๆ กลับมา เมื่อเห็นว่าที่หาดม่วงงาม อำเภอสิงหนคร ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก สามารถหยุดยั้งการก่อสร้างโครงการได้ จึงได้รวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องให้มีการทบทวนโครงการนี้ และยุติการก่อสร้างโครงการเอาไว้ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาร่วมกับชุมชน เพราะเราเชื่อว่าเมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จก็จะมีโครงการก่อสร้างเขื่อนอีกต่อไปเรื่อยๆ ชุมชนประมงที่อยู่ถัดไปก็จะได้รับผลกระทบ ทรัพยากรสัตว์น้ำในขณะนี้ก็ไม่มีให้จับเพราะแรงสะเทือนจากการตอกเสาเข็ม ดังนั้น จึงต้องหยุดเพื่อทบทวนโครงการเสียก่อน
