ผกก.ยันไม่เข้าข้างลูกน้อง ยิงชายคลั่งตาย เผยยังไม่สรุปปมปืนลั่น เร่งสอบเพิ่ม

ผกก.ยันไม่เข้าข้างลูกน้อง ยิงชายคลั่งตาย เผยยังไม่สรุปปมปืนลั่น เร่งส่งศพไปชันสูตร สอบพยานเพิ่ม พร้อมเยียวยาให้กำลังใจผู้สูญเสีย

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง ผกก.สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เปิดเผยว่า ความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุตำรวจเข้าระงับเหตุ ชายเมาสุราอาละวาด เป็นเหตุให้มีการทำร้ายร่างกายกัน และตำรวจยิงชายเมาสุราอาละวาดเสียชีวิต คือ นายลำเพย จำปา หรือปุ้ง อายุ 48 ปี ส่วนตำรวจคู่กรณี คือ ร.ต.ท.วิจิตร บางปา รองสารวัตร งานป้องกันปราบ สภ.โพนสวรรค์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บถูกผู้เสียชีวิตใช้อาวุธมีดฟันศีรษะ ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ล่าสุดทางตำรวจได้เข้าไปให้กำลังใจครอบครัว พร้อมทำความเข้าใจ ยืนยัน จะดำเนินคดีตรงไปตรงมาไม่เข้าข้างลูกน้อง หากมีพยานหลักฐานชัดเจน ในการกระทำผิดจะต้องได้รับโทษ ทั้งคดีอาญา และทางวินัย นอกจากนี้ ยังได้นำเอกสารคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ออกคำสั่งย้าย ร.ต.ท.วิจิตร บางปา รองสารวัตร งานป้องกันปราบ สภ.โพนสวรรค์ ออกจากพื้นที่ ไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินคดี และรับปากที่จะดูแลเรื่องความปลอดภัย ครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงพยานสำคัญ

ส่วนการดำเนินคดีหลังพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ร.ต.ท.วิจิตร ฐานความผิด กระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นอกจากนี้ยังได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ควบคู่กันไป ซึ่งทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และจะมีการส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตร ในวันนี้ 28 กรกฎาคม 2563 ที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น เนื่องจากติดวันหยุดยาว เพื่อรอผลชันสูตรมาประกอบการสอบสวน เพิ่มเติม ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ที่สำคัญทางตำรวจยังยืนยันที่จะพิจารณาชดเชยทางแพ่ง ให้กับผู้เสียชีวิตด้วย

พ.ต.อ.กวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจในการดำเนินคดีดังกล่าว ยืนยันว่าไม่เข้าข้างลูกน้อง ไม่ว่าคู่กรณีจะเป็นตำรวจหรือประชาชน จะต้องดำเนินคดีภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่มีการช่วยเหลือกันแน่นอน สำหรับประเด็นเรื่อง กระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และผลการสอบสวนของคณะกรรมการ ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจยังไม่ได้สรุปปมเกี่ยวกับตำรวจที่ยิงให้การเบื้องต้นว่าปืนลั่น แต่เป็นสิทธิของนายตำรวจดังกล่าวที่จะกล่าวอ้าง แต่ต้องผ่านขั้นตอนการสอบสวน และสรุปผลการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานทางคดี ขอให้มั่นใจว่าตำรวจทำงานตรงไปตรงมา ผิดว่าไปตามผิด และในส่วนของการดูแลเยียวยา ชดใช้ทางแพ่ง ทางผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญ อยู่ระหว่างการพิจารณาช่วยเหลือ ไม่ว่าผิดหรือถูกเมื่อมีการสูญเสียจะต้องได้รับการดูแล ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยหารือตามขั้นตอนอีกครั้ง สำหรับปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทางผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญและกำชับให้ตำรวจทุกนาย มีมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ เกี่ยวกับการควบคุมเหตุ ซึ่งทางตำรวจได้มีการฝึกซ้อมทบทวนยุทธวิธีต่างๆ เป็นประจำ และจะต้องกำชับให้ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ไม่ให้เกิดความสูญเสียลักษณะนี้ซ้ำอีก ขอให้ประชาชน มั่นใจในการทำงานของตำรวจ และจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเต็มที่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image