วันที่ 29 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงฤดูฝนชาวนาเริ่มไถหว่านเพื่อปักดำปลูกข้าว แต่ที่บ้านเสียวสงคราม ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม จะพิเศษกว่าบางพื้นที่นอกจากจะประกอบอาชีพทางการเกษตรแล้ว ยังหารายได้เสริมในเวลาว่าง ออกหาหน่อไม้ ปลาไหล เห็ดป่า ฯลฯ นำมาวางขายริมถนนทางหลวงแผ่นดิน 212 (นครพนม-บ้านแพง) ระหว่างหลักกิโล 254-256 ห่างจากนครพนม 59 กม. ท่าอุเทน 33 กม. และบ้านแพง 34 กม. ใกล้สี่แยกบ้านเสียว-หนองเทา สร้างรายได้อย่างมากมาย เงินสะพัดวันละหลายหมื่นบาท
ผู้สื่อข่าวเดินสำรวจพบแผงขายหน่อไม้ ตั้งเรียงรายเกือบ 20 แผง โดยปลูกเป็นเพิงหมาแหงนแบบง่ายๆ มีหน่อไม้ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “หน่อไม้ไร่” บรรจุใส่ถุงขายแก่ผู้สัญจรผ่านไปมา ในราคาถุงละ 30 บาท นางสุวรรณ ยางเบือก อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231 หมู่ 6 บ้านเสียวสงคราม หนึ่งในแม่ค้าที่เปิดแผงขาย เปิดเผยว่า หน่อไม้เหล่านี้ เกิดขึ้นโดยธรรมชาติในที่ดินสาธารณะประโยชน์ที่มีมากกว่าพันไร่ หนึ่งปีจะมีให้เก็บออกมาขายแค่ครั้งเดียว หน่อไม้ไร่จะเริ่มแทงโผล่ดินช่วงฝนตกในเดือน มิ.ย. และเกิดขึ้นมากมายในเดือน ส.ค. จะวายในช่วงออกพรรษาเดือน พ.ย.ของทุกปี ตอนหน่อไม้ขึ้นใหม่ๆ จะมีราคาแพงถุงละ 50 บาท แต่ก็ยังไม่พอจำหน่ายเพราะหน่อไม้ไร่ถือว่าเป็นหน่อไม้ที่เชื่อกันว่าอร่อยที่สุด พอปริมาณเพิ่มขึ้นราคาจะลดลงเป็น 30 บาท และถูกสุดตอนชุกมากอยู่ที่ 20 บาท ในแต่ละวันแต่ละแผงต้องออกไปหาหน่อไม้ตั้งแต่เช้ามืด นำมาปอกตกแต่งให้ดูสวยงาม บางรายก็แบ่งเป็นหน่อไม้ต้ม แล้วบรรจุถุงวางขาย จะมีลูกค้าจอดรถลงมาซื้อเสมอ หากเหลือจะนำไปแปรรูปเป็นหน่อไม้ดอง ไม่นำหน่อไม้เก่ามาขายอีก เพราะมีอยู่มากมายที่สดๆ ใหม่ๆ บนที่ดินสาธารณะ นอกจากจะได้หน่อไม้แล้ว บางครั้งก็เจอเห็ดปลวก เห็ดระโงก ของป่าต่างๆ จะนำมาขายแก่ผู้คนที่ต้องการ รายได้ในแต่ละวันตกอยู่ประมาณ 300-600 บาท
นางคำสาย ไชยริบูรณ์ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 141 หมู่ 6 บ้านเสียวสงคราม ซึ่งเป็นแม่ค้าที่นำปลาจาระเม็ด ปลาดุก และกบมาแขวนขาย กล่าวว่า เป็นปลาธรรมชาติที่อยู่ในสระกลางนา ช่วงฤดูฝนน้ำจะไหลลงสระพัดพาเอาปลาเหล่านี้มาด้วย ตนก็จะปล่อยให้โตโดยธรรมชาติ ไม่ใช่ปลาที่เลี้ยงด้วยหัวอาหาร ถึงเวลาเหมาะสมก็จะจับมาขายแก่ผู้บริโภค ในราคาปลาจาระเม็ดถุงละ 70 บาท ปลาดุกถุงละ 50 บาท และกบถุงละ 100 บาท เป็นที่สนใจแก่ผู้ผ่านไปมา รายได้ตกวันละ 800 บาท
ส่วนทางด้าน นายยุทธนา ลุนลา อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 44 หมู่ 10 บ้านนากระเสริม ต.พนอม อ.ท่าอุเทน ที่มีเขตต่อติดกับบ้านเสียวสงคราม เป็นอีกผู้หนึ่งที่หาปลาไหลมาขาย โดยจะนำเนื้อปลาเน่ามายัดใส่บั้ง ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน อดีตใช้กระบอกไม้ไผ่เป็นตัวดักจับ ปัจจุบันหันมาใช้ท่อพีวีซีแทน เวลาบ่ายแก่ๆ จะนำบั้งไปวางในหนองน้ำหรือในที่นาทิ้งไว้หนึ่งคืน เช้ามืดก็ไปกู้จะมีปลาไหลเข้ามากินเหยื่อปลาเน่าจำนวนมาก บางคนสามารถหาได้ครั้งละ 20-30 กก. นำมาแขวนขายถุงละ 100 บาท สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แม้จะเป็นในระยะสั้นๆ ก็ตาม นายยุทธนาเล่าให้ฟังว่า ปลาไหลในธรรมชาติจะมีเนื้อหวานมีกลิ่นหอม ผิดกับปลาไหลเลี้ยงที่จะเหม็นสาบ จึงเป็นที่ต้องการของผู้นิยมรับประทาน หากมาสายอาจจะผิดหวัง เพราะปลาไหลจะขายหมดก่อนสินค้าอื่นเสมอ “สินค้าทุกชนิดที่วางขายจะค่อยๆ หมดไปหลังย่างเข้าสู่ฤดูหนาว แผงต่างๆ จะกลายเป็นแผงร้าง แต่จะมาคึกคักอีกครั้งในเดือน มิ.ย.-พ.ย.” นายยุทธนาพร้อมพ่อค้าแม่ขายแผงหน่อไม้กล่าว
