เปิดใจ! แม่พยานปากเอก ‘คดีบอส อยู่วิทยา’ งงลูกชายโผล่เป็นพยานเพิ่งรู้

เปิดใจ! แม่พยานปากเอก ‘คดีบอส อยู่วิทยา’ งงลูกชายโผล่เป็นพยานเพิ่งรู้

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 255/15 หมู่บ้านวังชมภู หมู่ 15 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย กลุ่มชาวบ้าน นำโดย นายเกษม เชื้อเมืองพาน ผู้ใหญ่บ้าน และลูกบ้านต่างพากันช่วยจัดแจงเพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากเอกคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทธุรกิจกระทิงแดงขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต

เนื่องจากนายจารุชาติได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยภายในบ้านมีนางตา วังมูล อายุ 76 ปี มารดาของนายจารุชาติ และญาติๆ ต่างพากันกางเต็นท์และนำโต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ จัดเตรียมขณะที่นายสมาน วังมูล อายุ 65 ปี ผู้เป็นบิดา ได้พร้อมด้วยญาติคนอื่นๆ เดินทางไปรับศพของนายจารุชาติที่ จ.เชียงใหม่ โดยจะเดินทางไปถึงบ้านเพื่อประกอบพิธีในช่วงหัวค่ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับบ้านของนายจารุชาติพบว่าเป็นบ้านไม้หลังเก่ายกพื้นสูง รายล้อมด้วยป่าละเมาะของหมู่บ้านชนบท และที่บ้านมีผู้อยู่อาศัยด้วยกันเพียง 4 คน คือนายสมาน นางตา และบุตรสาววัย 15 ปีของนายจารุชาติ รวมทั้งหลานชายอีก 1 คน

ส่วนนายจารุชาติมักไม่ค่อยอยู่บ้าน โดยออกไปทำงานในหลายพื้นที่โดยแจ้งกับบิดาและมารดาว่าไปทำงานรับเหมาก่อสร้างและรับจ้างทั่วไป ทำให้ทั้งนายสมานและนางตารวมทั้งญาติคนอื่นๆ ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนเลยว่านายจารุชาติเข้าไปพัวพันเป็นพยานให้กับคดีดังของนายวรยุทธดังกล่าว กระทั่งมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่ จ.เชียงใหม่

Advertisement

นางตากล่าวว่า ตนมีลูก 3 คน โดยนายจารุชาติเป็นคนโต และมีน้องสาวอีก 2 คน ทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้และบาห์เรน ซึ่งปัจจุบันน้องสาวก็ยังกลับบ้านไม่ได้เพราะปัญหาโรคโควิด-19 สำหรับนายจารุชาตินั้นเรียนหนังสือจบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

จากนั้นก็เร่ร่อนออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปในหลายจังหวัดโดยไม่ค่อยได้กลับบ้าน ทั้งนี้ นายจารุชาติได้เลิกรากับอดีตภรรยาไปตั้งแต่ลูกสาวของเขาอายุได้เพียง 8 เดือน และจากนั้นก็เริ่มออกไปทำงานนอกบ้านทำให้ตนและญาติทำหน้าที่ดูแลหลานสาวมาตั้งแต่นั้น แต่เขาก็กลับไปเยี่ยมบ้านนานๆ ครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้เดินทางกลับในช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับบ้านอีกเลยและไม่เคยโทรศัพท์ไปหาตลอดระยะเวลาหลายเดือนมานี้ด้วย

นางตากล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบุตรชายไม่เคยบอกกล่าวว่าได้เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นพยานให้กับคดีดังกล่าว เพราะตามปกติเขามีนิสัยไม่ชอบให้ใครไปซักถามเรื่องของตน และไม่เคยเล่าเรื่องของตัวเองให้คนอื่นทราบมากนัก แม้แต่ตนก็เพิ่งจะทราบว่าลูกชายเข้าไปเป็นพยานในคดีเมื่อช่วงคืนวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมานี้เอง เพราะปรากฏชื่อในข่าวสาร แต่ก็มีเพียงชื่อโดยไม่มีนามสกุลก็ไม่ได้สนใจและคิดว่าไม่น่าจะเป็นลูกชายตน กระทั่งเกิดอุบัติเหตุที่ จ.เชียงใหม่ และมีคนแจ้งให้ทราบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว และเป็นบุคคลเดียวกับคดีดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image