สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานีและเทศบาลเมืองอุทัยธานีตรียมจัดงาน “เกษตรอินทรีย์ วิถีอุทัย Re-Start อุทัยธานี” นับเป็นงานแรกหลังปลดล็อคจากสถานการณ์โควิด–19 พร้อมกระตุ้นและขับเคลื่อนภาคการเกษตรโดยเฉพาะ ‘เกษตรอินทรีย์’ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของจังหวัด ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งประชาชนในจังหวัดและนักท่องเที่ยว งานครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานด้วย
ภายในงานมีการจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย สินค้าเกษตรอินทรีย์ และสินค้าเกษตรแปรรูปที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ภายใต้นิทรรศการเกษตรอินทรีย์วิถีอุทัย พร้อมกิจกรรมการแสดงดนตรี และการสาธิตอาหารเด็ดจากเกษตรอินทรีย์และสินค้าภายใต้มาตรการวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) รองรับสถานการณ์โควิด–19 อย่างเคร่งครัด
โดยไฮไลต์ที่สำคัญคือ นิทรรศการสืบสานพระราชดำรัสของรัชกาลที่ 9 คราวเสด็จพระราชดำเนิน ที่จังหวัดอุทัยธานี การจัดแสดงสินค้าเกษตรอินทรีย์และสินค้าและนิทรรศการการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ผู้เข้าชมงานสามารถเลือกซื้อสินค้าเกษตรคุณภาพจาก ร้านจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ โดยกลุ่มเกษตรกรที่ขนผลผลิตสดๆ จากไร่มาให้นักท่องเที่ยวเลือกช้อป เลือกชิมอย่างจุใจ พบกับสินค้าปลอดสารจากกลุ่มเครือข่ายเกษตรอินทรีย์วิถีอุทัย โดยคัดสรรสินค้าคุณภาพแต่ละอำเภอมารวมไว้ที่เดียว อาทิ 1.พืชผักสวนครัวพื้นบ้านและผักสลัด 2.ข้าวอินทรีย์ ถั่วเขียวอินทรีย์ และเห็ดอินทรีย์ 3.สินค้าจากพื้นที่สูง ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ ได้แก่ ทุเรียน อะโวคาโด้ การแฟอะราบริก้า มะละกอ และแก้วมังกร 4.ผลไม้ ได้แก่ ส้มโอบ้านไร่ ส้มซ่า สับปะรดบ้านไร่ 5.ผลิตภันณ์จากปลาแรด GI จากแม่น้ำสะแกกรัง เช่น ปลาแรดทอดกระเทียม ปลาแรดแดดเดียว แหนมปลาแรด ไส้กรอกปลาแรด ปลาแรดหยอง ซาลาเปาไส้ปลาแรด(ไส้เห็ดหอม, ไส้น้ำพริกเผา) ข้าวเกรียบปลาแรด น้ำพริกปลาแรด ทอดมันปลาแรด ห่อหมกปลาแรด 6.ผลิตภัณฑ์ของป่า เห็ด น้ำผึ้ง ผักป่า 7.สินค้านวัตกรรมการเกษตรเพื่อสุขภาพของอุทัยธานีสารสกัด จากข้าวอินทรีย์ สับปะรดปลอดสาร ถั่วแระญี่ปุ่น และเกล็ดปลาแรด 8.ไข่ไก่อินทรีย์ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส นมสด นมแพะ และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ 9.ของที่ระลึกจากผ้าทอ และผลิตภัณฑ์จากผ้าทอของชุมนที่สูงแก่นมะกรูด
ด้านนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า จังหวัดอุทัยธานี นับเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการเกษตรและการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่ถือว่ามีความสำคัญกับจังหวัดอุทัยธานีเป็นอย่างมาก เห็นได้จากทิศทางหรือนโยบายการพัฒนา รวมถึงการขับเคลื่อนด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง
“โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตภาคการเกษตร สร้างมูลค่าเพิ่มภายใต้ “เกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์” ควบคู่กับพัฒนานวัตกรรมอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรและสิ่งเหลือใช้จากภาคเกษตรให้มีความหลากหลายสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งเป็นเทรนด์ที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมาเราได้รณรงค์ส่งเสริมเกษตรกรให้หันมาผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยโดย ลด ละ เลิก การใช้สารเคมีซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และพยายามส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้องค์ความรู้ใหม่ๆ จากธรรมชาติ และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามเรายังพยายามผลักดันให้เกษตรกรพัฒนาการผลิตไปสู่ “เกษตรอินทรีย์ ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมสูงสุด ตามนโยบายภาครัฐ โดยขณะนี้ เกษตรกรเริ่มหันมาให้ความสนใจจำนวนมาก เห็นได้จากข้อมูลพื้นที่การผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตร โดยเฉพาะข้าวอินทรีย์และผักอินทรีย์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมการข้าวและกรมวิชาการเกษตร ในปีที่ผ่านมามีมากกว่า 3,000 ไร่ กว่า 250 แปลง มีผลผลิตรวมกว่า1,300 ตัน/ปี เมื่อเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศซึ่งคึกคักมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรอินทรีย์จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ ให้เกษตรกรและประชาชนในจังหวัดอุทัยธานีต่อไปในอนาคต”
นอกจากนี้ภายในงานยังจะได้ชมการแสดงทางวัฒนธรรม การสาธิตอาหารจากวัตถุดิบอันขึ้นชื่อพร้อมฟังเพลงสบายๆ สไตล์ New Normal โดยงาน “เกษตรอินทรีย์ วิถีอุทัย Re-Start อุทัยธานี” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 1 สิงหาคมนี้ ที่ ตรอกโรงยา อ.เมือง จ.อุทัยธานี
