เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณี นายลำเพย จำปา หรือปุ้ง อายุ 48 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านค้อ หมู่ 1 อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เมาสุราอาละวาดคลุ้มคลั่ง จนกระทั่งญาติได้แจ้งทางตำรวจ คือ ร.ต.ท.วิจิตร บางปา รองสารวัตร งานป้องกันปราบปราม สภ.โพนสวรรค์ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายตรวจประจำตำบลบ้านค้อ เข้าระงับเหตุ จนมีการทำร้ายร่างกายกัน ทำให้นายปุ้งฯ ใช้อาวุธมีดฟันตำรวจได้รับบาดเจ็บ เป็นต้นเหตุให้ ร.ต.ท.วิจิตร บางปา ที่เข้าไประงับเหตุ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ยิงจนเสียชีวิตคาที่ ต่อมาทางญาติได้นำคลิปเหตุการณ์เป็นหลักฐาน ในการเรียกร้องขอความเป็นธรรม และดำเนินคดีกับตำรวจผู้ก่อเหตุ โดยระบุว่าไม่พอใจที่กระทำเกินกว่าเหตุ ไม่ใช่การควบคุมเหตุ แต่เป็นการเจตนาใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ทั้งที่คู่กรณีไม่มีทางสู้
ล่าสุดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของตำรวจ หลังญาติผู้ตายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ทางพนักงานสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ ได้แจ้งข้อหาฐานความผิดกับ ร.ต.ท.วิจิตร บางปา รวม 2 ข้อหา คือกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัย พร้อมมีคำสั่งย้าย ไปประจำที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม อย่างไม่มีกำหนด ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และยังต้องรอผลการชันสูตรศพ เพื่อรวบรวมสรุปพยานหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทางผู้บังคับบัญชายืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และจะมีการพิจารณาชดเชยทางแพ่ง แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต
นายพฤษภา จันทองหลาง อายุ 26 ปี หลานชาวผู้ตาย ที่อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่า หลังตำรวจมีการดำเนินคดีรู้สึกอุ่นใจ ตอนแรกกลัวน้าตายฟรี เพราะมีตำรวจเป็นคู่กรณี แต่อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจในพยานหลักฐาน รวมถึงคลิปเหตุการณ์ชัดเจน เพราะช่วงแรกที่มีการทำร้ายร่างกายกันตนอยู่ในเหตุการณ์ พอตำรวจยิงที่ขาผู้ตายทรุดลง ตนได้เข้าไปห้ามและเอามีดออกจากมือผู้ตาย แต่ทางตำรวจยังเดินเข้าไปเตะซ้ำที่ใบหน้า และจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต ทั้งที่ตนขอร้องให้พอได้แล้ว แต่ตำรวจผู้ก่อเหตุไม่ฟัง ตนมองว่าเป็นการเจตนาฆ่าให้ตาย ไม่ได้ปรักปรำตำรวจ มีหลายคนยืนยันเห็นเหตุการณ์ รวมถึงมีหลานสาวอีกคนที่บันทึกคลิปไว้ชัดเจน ยอมรับผู้ตายเมาอาละวาดทำร้ายตำรวจ แต่ปกติผู้ตายไม่เคยทำร้ายใคร มั่นใจที่มีเหตุทำร้ายกัน เพราะตำรวจเปิดฉากทำร้ายก่อน ตนจึงขอความเป็นธรรมแก่ผู้ตาย อยากให้ตำรวจถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะหากไม่ยิงซ้ำคงไม่ตาย ทั้งๆ ที่น้าชายอยู่ในสภาพหมดหนทางสู้แล้ว
