สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อดีตผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความและรูปภาพทาง เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า …บุกพังบ้านของผม..เพื่ออะไร เช้ามืดวันนี้ ทางบ้านแจ้งข่าว บ้านพักผมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกคนร้ายชาย บุกรุก และทุบทำลายข้าวของ โดยใช้รูปปั้นสิงโตเฝ้าประตู สีทอง ขนาด 1 ฟุต ของบ้าน ปาใส่ประตูรั้วจนเสียหาย (ตามภาพ) มีการปายางรถจักรยานยนต์ที่ไม่ใช้แล้วเข้ามาจำนวนหลายเส้น แต่ตัวบ้านจากนอกจากรั้ว ไม่มีอะไรเสียหาย..บ้านหลังนี้ เป็นบ้านพักของผมเอง ซึ่งจะใช้ชั่วครั้งชั่วคราว ตั้งอยู่กลางเมืองกาฬสินธุ์ บนถนนโสมพะมิตร …สืบทราบด้วยตนเอง ผมได้ทราบชื่อ สกุล และประวัติคนร้ายแล้ว ว่าเป็นบุคคลที่พึ่งออกจากคุกมาในคืนเดียวกันนั้น สดๆ ร้อนๆ ขั้นตอนต่อไปผมจะได้มอบหมายให้ทนายความเดินทางไป สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อทำการแจ้งความร้องทุกข์ภายในวันนี้ หรือเร็วที่สุด ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากเรื่องอะไร ไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัว เรื่องการเมืองท้องถิ่น การเมืองระดับชาติ หรือจากการเคลื่อนไหวของผมในขณะนี้ ผมต้องการความชัดเจน และดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.อ.ปริญญา คำเจริญ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในสถานที่เกิดเหตุภายใน ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางนงเยาว์ นิธิพรเดชะ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของนายปิยรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว และเป็นนักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง
จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว ไม่มีคนอาศัยอยู่ภายใน พบประตูหน้าบ้านโครงเหล็กเสริมด้วยไม้ฝาเฌอร่าสลับกัน มีช่อง สภาพเป็นรู เสียหายเล็กน้อย และสามารถเปิดเข้าออกได้ ใกล้กันพบเศษซากรูปปั้นสิงห์ 2 ตัว แตกกระจัดกระจายอยู่ภายในและนอกรั้วประตูบ้าน ทั้งนี้ จากการสืบสวนและสอบถามพยานผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนที่ก่อเหตุคือนายรุจิกร หรืออาร์ม อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นญาติและเป็นลูกพี่ลูกน้องของนายปิยรัฐ ส่วนสาเหตุเกิดจากผู้ก่อเหตุไม่สามารถเปิดประตูเข้าไปภายในตัวบ้านได้ จึงใช้สิงห์เหวี่ยงหรือปาไปที่รั้วประตูทางเข้าบ้าน ทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว
นางนงเยาว์กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือนายอาร์ม ซึ่งเป็นญาติและเป็นลูกพี่ลูกน้องของนายปิยรัฐ เจ้าของบ้านที่ถูกก่อเหตุ ทั้งนี้ พ่อแม่ของนายอาร์มได้เสียชีวิตตั้งแต่นายอาร์มอายุได้ 3 ขวบ ทางญาติเองได้ดูแลเลี้ยงดูส่งเสียมาตั้งแต่ตอนนั้นมาเรื่อย บ้านหลังนี้เองที่บรรดาญาติได้เลี้ยงอาร์มและโตโต้ให้เติบโตมาด้วยกัน ทำให้รู้สึกผูกพันกับบ้านหลังนี้มาก โดยคนที่เลี้ยงอาร์มเป็นพี่สาวของแม่นายโตโต้ มาระยะหลังนี้เองอาร์มได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงส่งผลได้รับผลกระทบทางระบบประสาท มีอารมณ์แปรปรวน อาละวาด ทำลายข้าวของภายในบ้าน
นางนงเยาว์กล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุเข้าใจว่านายอาร์มจะเปิดประตูเข้าไปภายในตัวบ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้ส่วนตัวแล้วนายอาร์มจะรู้สึกผูกพันมาก เพราะเติบโตมากับบ้านหลังนี้ ไม่สามารถเข้าไปพื้นที่ตัวบ้านได้ เลยก่อเหตุในลักษณะทุบทำลายรั้ว ทุ่มสิงห์ใส่รั้วเพื่อจะเข้าไปภายใน โดยส่วนตัวแล้วนายอาร์มกับโตโต้ไม่มีปัญหาส่วนตัวอะไรกัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน มองแล้วอาจไม่มีคนอยู่ในบ้านเลยอยากเข้าไป ส่วนความเสียหายจะให้ป้าที่เป็นแม่เลี้ยงของนายอาร์มมาชดใช้ค่าเสียหายให้ แล้วจะทำรั้วให้ใหม่ พร้อมกับซื้อสิงห์มาแทน ขอยืนยันอีกครั้งว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองเป็นเรื่องภายในครอบครัว
ขณะที่ พ.ต.อ.ปริญญากล่าวว่า นับตั้งแต่วันเกิดเหตุยังไม่มีใครมาแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน แต่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบทราบว่าผู้ก่อเหตุชื่อนายอาร์ม เป็นบุคคลที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้กับนายปิยรัฐ มาระยะหลังนายอาร์มได้ย้ายมาอยู่ด้านนอก มีสาเหตุมาจากไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้คลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของภายในบ้าน หลังจากทราบข้อมูลจากนางนงเยาว์ที่เป็นผู้เลี้ยงดูนายอาร์ม และนายอาร์มยังอยากเข้าไปบ้านอาศัยอยู่ เปิดประตูไม่ได้ และพยายามจะเข้าบ้าน แต่ไม่สามารถเข้าได้ จึงทำการทุบรูปปั้นสิงห์เหวี่ยงไปที่รั้วบ้าน ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาทางการเมือง หรือการเคลื่อนไหวตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆ
พ.ต.อ.ปริญญากล่าวว่า ส่วนตัวนายอาร์มนั้น จากการตรวจสอบประวัติที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาขับเสพมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งหากมีการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
