ส.โรงแรมไทย จี้ผ่อนปรนเกณฑ์จองห้องพัก”เราเที่ยวด้วยกัน” ชี้ข้อห้ามเยอะ ทำคนจองน้อย

สมาคมโรงแรมไทยขอผ่อนปรนหลักเกณฑ์จองห้องพัก”เราเที่ยวด้วยกัน” ค้านนำโรงแรมเถื่อนร่วมแคมเปญ

วันที่ 5 สิงหาคม นายอุดม ศรีมหาโชตะ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ เปิดเผยว่า ขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ธนาคารกรุงไทย และกระทรวงมหาดไทย พิจารณาเงื่อนไขของผู้ประกอบการโรงแรม เพื่อเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ขอให้ระวังการสนับสนุนผู้ประกอบการที่ดำเนินการไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ ควบคุมอาคาร 2522 , พ.ร.บ.โรงแรม 2547 และ พ.ร.บ สาธารณสุข 2535 โดยเฉพาะการควบคุมและป้องกันโควิด 19 เพื่อปรับหลักเกณฑ์ของโรงแรมที่พัก ที่จะเข้าร่วมมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อต้องการดึงห้องพักและโรงแรมให้เข้าร่วมโครงการให้มากขึ้นจากโรงแรมที่มีใบอนุญาตถูกต้อง กว่า 15,000 ราย แต่เข้าร่วมโครงการไม่เกิน 7000 ราย

“ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องวิเคราะห์ว่าทำไม มีผู้สนใจใช้สิทธ์น้อยเพียง 3.5 แสนห้องอาจจะเป็นเพราะโครงการนี้ห้ามเปลี่ยนแปลงการจองวันที่เข้าพัก การลดหรือเพิ่มจำนวนห้องพักเมื่อได้ทำการจองและจ่ายเงินผ่านระบบเป๋าตังแล้ว และต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนการเข้าพัก หากโครงการสามารถแก้ไขเงื่อนไขและหลักเกณฑ์นี้ได้ อาจจะมีการจองใช้สิทธ์มากขึ้น และขอชื่นชมผู้ที่พัฒนาระบบการลงทะเบียน เพื่อป้องกันจุดรั่วไหลได้ดีกว่าโครงการ ชิม ช็อบ ใช้ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันนักท่องเที่ยวพยายามลดการใช้จ่ายหรือจำนวนวันเข้าพักที่โรงแรมของการเดินท่องเที่ยว โดยจะเที่ยวเฉพาะวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น “ นายอุดม กล่าว

นายอุดม กล่าวอีกว่า จำนวนโรงแรมที่เข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ปัจจุบันมี 6,684 แห่ง เทียบกับจำนวนโรงแรมที่ถูกต้องทั้งหมด รวมที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมไม่เกิน 4 ห้อง และ โฮมสเตย์ ที่ได้ทำการจดแจ้งขออนุญาตแล้ว หากที่พักที่ลงไม่ทะเบียนไม่เพียงพอ หน่วยงานรัฐต้องไปเจรจาขอให้โรงแรมที่เหลือ ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง เข้ามาร่วมโครงการก่อน เพื่อประเมินว่าติดขัดปัญหาใดหรือมีเหตุผลใดไม่เข้าร่วมโครงการ จากนั้นควรที่จะผ่อนผันโรงแรมที่อยู่ในขั้นตอนการต่ออายุใบอนุญาตโรงแรม สำหรับโรงแรมที่มีใบอนุญาตแล้ว และโรงแรมที่ขอใบอนุญาตใหม่ ที่ได้รับการตรวจสอบผ่านแล้ว ได้เข้าร่วมโครงการ โดยทางอำเภอหรือจังหวัดเป็นผู้ออกเอกสารยืนยันการตรวจสอบว่าผ่านมาตรฐานความปลอดภัยและสาธารณสุข

“ สมาคมฯมีการผลักดันร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้มีการออก กฎกระทรวง กำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559 ซึ่งมีอายุ 5 ปีนับแต่วันที่ประกาศ 11 สิงหาคม 2559 เพื่อช่วยเหลือและผ่อนผันผู้ประกอบการในการแก้ไขและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารที่พักมาเป็นอาคารโรงแรมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นควรจะต้องมีโรงแรมหรือที่พักที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อ 4 ปีที่แล้วสามารถดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ โรงแรม จนถึงปัจจุบันนี้เป็นจำนวนมากซึ่งรวมถึง โรงแรมบูติก และ โฮสเทล ที่ผ่านการแก้ไขถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนั้นสมาคมฯ ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงชุมชนที่มีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ที่มีปัญหาในด้านต่างๆ เพื่อให้เข้ามาในระบบของ พ.ร.บ โรงแรม ได้อย่างถูกกฎหมาย เพื่อที่จะได้มีการพัฒนาผู้ประกอบการในด้านการบริการและความปลอดภัย “ นายอุดม กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image