นักการเมืองด่านสิงขร ร่างทรงนายทุนวิ่งเคลียร์วุ่นขอสื่อเลิกรื้อปัญหาตลาดเอกชนเช่าที่ดิน สปก. 24 ไร่ เปิดกิจการขนถ่ายสัตว์น้ำ
ความคืบหน้ากรณีตัวแทนผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกสินค้า ที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร้องเรียน ปปช. และร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบ หลังจากมอบอำนาจให้คณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา อ้างขอความร่วมมือผู้ประกอบการตลาดเอกชนแห่งหนึ่งใช้พื้นที่จัดทำลานขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศชั่วคราว ที่ด่านสิงขร โดยให้ผู้ประกอบการเสียค่าใช้จ่ายให้เจ้าของตลาด แทนการใช้สถานที่ของราชการ เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการขนถ่ายสินค้าและเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน นั้น
วันที่ 8 สิงหาคม นายกิตติพงศ์ คำรณฤทธิศร นิติกรชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานกฎหมาย สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน (สปก.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งขอใช้ที่ดิน สปก. 24 ไร่ เพื่อทำตลาดและมีวัตถุประสงค์เพิ่มเติมเพื่อจัดทำสถานที่ขนถ่ายสัตว์น้ำ ทำสัญญาเช่าเป็นเวลา3 ปี มีอัตราค่าเช่าปีละ 2.4 แสนบาท ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สปก.จังหวัด ต่อมามีมติเห็นชอบจากคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดน ฯ ยอมรับว่า ส่วนตัวไม่เคยไปตรวจสอบสถานที่จริง และการเช่าใช้พื้นที่ของเอกชนที่มีสิ่งปลูกสร้างในที่ดิน สปก. แต่จะตรวจสอบเจตนาในการขอประโยชน์ตามกฎหมายของ สปก. เป็นหลัก สปก.ไม่มีหน้าที่ในการตรวจอบอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างหรือกฎหมายผังเมืองของหน่วยงานอื่น แต่ผู้เช่าต้องไปติดต่อประสานงานเพื่อขออนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด
นายนนทกร คงเจริญ ผู้อำนวยการกองช่าง องค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) คลองวาฬ อ.เมือง ฯกล่าวว่า ขณะนี้มีการก่อสร้างลานคอนกรีตบริเวณขนถ่ายสัตว์น้ำในตลาดเอกชนแห่งหนึ่ง ยอมรับว่าดำเนินการก่อนขออนุญาตตาม พ.ร,บ.ควบคุมอาคาร 2522 แต่เอกชนสามารถดำเนินการก่อสร้างต่อเนื่องได้ จากนั้นให้นำแบบแปลนไปยื่นขออนุญาตในภายหลังได้ ตามมาตรา 21 และมาตรา 39 ทวี โดย อบต.จะส่งแบบแปลนการก่อสร้างให้ สปก.เจ้าของพื้นที่พิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์
มีรายงานว่า หลังจากผู้สื่อข่าวเดินทางไปติดตามข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองวาฬติดต่อขอประสานผ่านสื่อมวลชนทางโทรศัพท์พยายามขอเคลียร์ให้ยุติการเสนอข่าวที่ทำให้มีผลกระทบกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดรายหนึ่งอาจเข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อน และนักการเมืองดังกล่าวอ้างว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงทุนกับนักธุรกิจในเครือข่ายของอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์รายหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมามีการใช้งบลงทุนก่อสร้างจำนวนมาก และจุดที่ก่อสร้างลานคอนกรีต อาจมีปัญหากีดขวางลำรางสาธารณะและการบำบัดน้ำเสีย หากมีการทำประชาพิจารณ์จะทำให้มีปัญหากับมวลชนในพื้นที่
นายนิพนธ์ ทองเก่า ตัวแทนผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกที่ด่านสิงขร กล่าวว่า เดิมตลาดเอกชนจะเปิดกิจการขนถ่ายสัตว์น้ำ จาก จ.มะริด ประเทศเมียนมาตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา แม่ว่า จ.มะริดอยู่ในช่วงปิดอ่าว หลังจากเจ้าของตลาด ลูกน้องคนสนิทของอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์รายหนึ่ง มีเอกสารแจ้งถึงผู้ประกอบการขนส่งสินค้า อ้างว่าจังหวัดขอความร่วมมือใช้พื้นที่ขนถ่ายสินค้าชั่วคราว ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม เป็นต้นไป กำหนดอัตราค่าบริการรถ 4 ล้อคันละ 50 บาท รถหกล้อคันละ 100 บาท รถสิบล้อคันละ 150 บาท ค่าบริการน้ำฉีดรถคันละ 50 บาททุกประเภท และตลาดได้จัดให้มีบริการน้ำแข็งสำหรับแช่สิ่งของ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการทุกรายใช้น้ำแข็งที่ตลาดจัดไว้ให้ ล่าสุดตนจะขอเอกสารทางราชการจากศูนย์สั่งการชายแดนฯ หลังจากเจ้าของตลาดอ้างว่า จังหวัดได้ขอความร่วมมือขอใช้พื้นที่ขนถ่ายสินค้า ซึ่งต้องการทราบว่ามีการตกลงด้วยวาจา หรือมีหนังสือของทางราชการยืนยันขอใช้ตลาดชั่วคราว และขอทราบไทม์ไลน์จุดขนถ่ายสินค้าของหน่วยงานรัฐจะเปิดใช้ได้เมื่อใด
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่ขนถ่ายสัตว์น้ำชั่วคราว พบว่าอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารและลานคอนกรีตใช้งบประมาณมูลค่านับล้านบาท ขณะที่จุดขนถ่ายสินค้าเดิมในพื้นที่โนแมนแลนด์ บริเวณศาลเจ้าพ่อหินกอง ใกล้จุดตรวจ ตชด.ที่ 146 มีผู้ประกอบการขนถ่ายสินค้าไม่มาก และสามารถขยายพื้นที่ได้อีก โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดได้แก้ไขปัญหาการนำเข้าส่งออกสินค้า เพื่อไม่ให้มีปัญหาความแออัดและลดเวลาในการขนถ่ายสินค้า ขณะที่ผู้ประการนำเข้าส่งออกส่วนหนึ่งเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐมีความพร้อมในการจัดสถานที่ไว้เพื่อรองรับการขนถ่ายสินค้า ไม่ควรเปิดช่องให้ใช้ตลาดของเอกชนในลักษณะผูกขาดโดยอ้างขอความร่วมมือชั่วคราว และจุดดังกล่าวห่างจากที่ทำการของด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรอาจทำให้มีปัญหาลักลอบนำเข้ายาเสพติด และ ปัจจุบันยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียเกรงว่าจะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
