จับ 8 ผู้ต้องหาทำประมงในอ่าวบ้านดอน ตะลุมบอนวุ่นหน้าสถานีตำรวจน้ำ

จับ 8 ผู้ต้องหาทำประมงในอ่าวบ้านดอน ตะลุมบอนวุ่นหน้าสถานีตำรวจน้ำ

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการร่วม ศรชล.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจน้ำ ประมงจังหวัด หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเล นำเรือตำรวจน้ำ รน.59 ออกลาดตระเวนตรวจสอบและป้องกันการทำผิดกฎหมายในบริเวณอ่าวบ้านดอน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้พบเรือประมง 3 ลำ ทำประมงคราดหอยในเขตชายฝั่ง 3 ไมล์ทะเลบริเวณปากคลองฉนาก ห่างจากฝั่งประมาณ 2.5 ไมล์ทะเล ต.คลองฉนาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เบื้องต้นชาวประมงอ้างว่า ไปทำประมงนอกเขตและกำลังกลับเข้าฝั่งแต่เรือเสีย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นการทำผิดกฎหมายประมงห้ามใช้เครื่องมือทุกชนิดจับสัตว์น้ำ จึงนำชาวประมงพื้นบ้าน 8 รายพร้อมเครื่องมือทำการประมง และน้ำต้มพืชกระท่อม 1 ขวด ไปลงบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาใช้เครื่องมือคราดในเขตประมงชายฝั่งโดยไม่ได้รับอนุญาต

ต่อมา ที่หน้าสถานีตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี ได้มีชาวบ้านประมาณ 100 คน มารวมตัวกันกดดันให้ปล่อยตัวชาวประมงทั้ง 8 ราย โดยอ้างว่า ผู้ที่ถูกจับไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และมีการมีชี้หน้าโต้เถียงกับนายรักษ์เพิ่ม เวชวัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางชนะ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ประมงไปจับและเกิดการตะลุมบอนกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสมาชิก อ.ส.ที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องรีบเข้าแยกทั้งสองฝ่ายก่อนจะบานปลาย แต่กลุ่มชาวบ้านยังไม่ยอมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงความผิดชาวประมงพื้นบ้านทั้ง 8 ราย

นายสมพร เกื้อสกุล หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดสุราษฎรธานี ได้ชี้แจงให้กลุ่มชาวบ้านและญาติผู้ต้องหา ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 8 รายถูกแจ้งในข้อหาข้อหาประมง คือ ใช้เครื่องมือประมงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหา ใช้เรือไร้สัญชาติทำการประมง โดยมีข้อหานี้ด้วยเนื่องจากตรวจสอบเรือทั้ง 3 ลำไม่พบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้อง ซึ่งหากญาติและชาวบ้านสงสัยให้นำหลักฐานมายืนยันกับตำรวจได้ ซึ่งชาวบ้านและญาติพอใจจึงแยกย้ายกลับและเจ้าหน้าที่จึงนำผู้ต้องหาทั้ง 8 รายพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image